ภาค 5 นำข้าราชการตำรวจ ประชาชน และจิตอาสา ร่วมใจบริจาคโลหิต “โครงการตำรวจไทย ต้านภัย COVID-19 บริจาคโลหิต ด้วยจิตอาสา” (มีคลิป)

 ผู้บัญชการตำรวจภาค 5 สั่งเฝ่าระวังในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ ระบุมีขาราชการตำรวจ 31 นาย ที่ต้องเฝ้าระวังตนเองเนื่องจากมีญาติกลับมาจากพื้นที่เสียง ต้องปฎิบัติตามมาตราการของสาธารณสุข และคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัด

 

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563เวลา 10.00 น. ตำรวจภูธรภาค 5 โดยการนำของ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5,พล.ต.ต.บัญฑิต ตุงคเศรณี รอง ผบช.5 นำข้าราชการในภาค 5 ร่วมกันบริจาคโลหิตให้กับทางเจ้าหน้าที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อนำไปช้วยเหลือผู้ประสบภัยโรคโควิท 19 ณ สโมสรคุ้มแก้วขวัญดาว ภาค 5


ซึ่งการบริจาคโลหิตของข้าราชการตำรวจและประชาชนจิตอาสา ตาม “โครงการตำรวจไทย ต้านภัย COVID-19 บริจาคโลหิต ด้วยจิตอาสา” โดยมีหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ จากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ มาดำเนินการรับบริจาคในครั้งนี้ ซึ่งทางตำรวจภูธรภาค 5 ได้ดำเนินการบริจาคโลหิตภายใต้การขับเคลื่อนกลยุทธ์เฝ้าระวังการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID-19 ด้วยการจัดเตรียมสถานที่ตามมาตรการความปลอดภัย Social Distancing, เตรียมเจลแอลกอฮอล์ไว้บริการทั้งก่อน และหลังการบริจาคเลือด รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกนายสวมหน้ากากอนามัยอย่างรัดกุม ถูกต้องตามวิธีการสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงได้เตรียมร่างกายให้พร้อมในการบริจาคโลหิตในครั้งนี้อีกด้วย


พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ของโรคโควิท 19 แพร่ระบาดในขณะนี้ ทำให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกิดความเป็นห่วงประชาชน เกรงว่าโลหิตที่อยู่ในโรงพยาบาลต่างๆที่จะนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยนั้นอาจไม่เพียงพอ จึงได้แจ้งให้กำลังพล ประชาชน ที่อยู่ในพื้นที่ ที่มีจิตอาสาช่วยบริจาคโลหิต ให้กับผู้ที่รับการรักษาในโรงพยาบาลนั้นๆ ตำรวจภูธรภาค 5 ได้มีการสั่งการให้กงอบังคับการตำรวจภูธรทั้ง 8 จังหวัดภาคเหนือได้มีการคัดกรอง กำลังพล ประชาชน ที่มีจิตอาสา ช่วยกันบริจาคโลหิตขึ้น


ทั้งนี้ตำรวจภูธรภาค 5 เน้นให้มีการเฝ้าระวังตนเอง และปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และให้ปฎิบัติตามมาตรการของ ผู้ว่าราชการจังหวัด ที่กำหนดไว้เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิท 19 ทางตำรวจภาค 5 ได้มีกำหนด การคัดกรอง เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องทั้งข้าราชการตำรวจ ประชาชนที่มาติดต่อราชการ ได้มีการกำหนดเวลาการทำงาน โดยไม่ต้องมาทำงานทุกวัน


ขณะนี้พื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 พบมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในกลุ่มเฝ้าระวังจำนวน 31 ราย เนื่องจากมีญาติกลับมาจากประเทศอินโดนีเซีย หรือเข้าไปในพื้นที่ที่การแพร่ระบาดของโรคโควิท 19 หรือกลุ่มเสียง จึงได้มีการสั่งการให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ แต่ไมมีอะไรรุ่นแรงเกิดขึ้น โดยตำรวจภูธรภาค 5 ได้มีกำกำหนดจุดคัดกรอง และปฏิบัติตามมาตการของกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อไป.


************************
นิวัตร ธาตุอินจันทร์ เชียงใหม่

Related posts