ปัตตานีผู้ว่าปัตตานีคาดโทษไล่ออกผู้ใหญ่บ้าน ถ้าปล่อยให้พื้นที่อยู่ปกติไม่ระวังโควิด19
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 เมย. ที่ศาลากลาง จ.ปัตตานี นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผวจ.ปัตตานี ได้เรียกประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ปัตตานี โดยเน้นประเด็นการยับยั้งเชื้อโรคร้ายไวรัสโควิด-19 ประกอบด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้ง 12 อำเภอ ซึ่งการประชุมครั้งนี้ได้กำหนดนโยบายเร่งด่วนในการยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งล่าสุดทางคณะกรรมการได้เห็นชอบในการจัดตั้ง local quarantine ระดับจังหวัด เพื่อรองรับผู้เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคทั้งผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ กรุงเทพและปริมณฑล รวมทั้งจังหวัดอื่น ๆ โดยจัดสถานที่ไว้ 3 แห่ง
คือ 1. อาคารอดนกประสงค์ และโรงยิมสถานกีฬากลาง แบต.ปัตตานี 2.นิคมอุตสาหกรรมฮาลาล ต.น้ำบ่อ อ.ปะนาเระ และ 3.หอพักนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี รวมไปถึงการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ณ ศูนย์ประสานบริหารเขตอุตสาหกรรม ต.บานา อ.เมืองปัตตานี เพื่อเป็นที่รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 นอกจากนี้ในที่ประชุมยังมีการกำชับให้ผู้นำท้องถิ่นทุกพื้นที่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้ถึงภัยอันตรายของโรคโควิด-19และขอความร่วมมืองดการปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิดในช่วงนี้ตามคำสั่งของจุฬาราชมนตรี และวัดทุกแห่งด้วย รวมไปถึงมาตราการปิดเส้นทางเข้าออกจังหวัดปัตตานีทุกพื้นที่รอยต่อทุกอำเภอและจังหวัด
นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผวจ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมใน จ.ปัตตานี จำนวน 45 คน โดยมี 18 คนที่มาจากการชุมนุมทางศาสนา และมีบุคคลที่หายจากอาการแล้ว 23 คน จากการสอบสวนผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ระบุว่า มีบุคคล 2 ประเภทที่นำเชื้อมาแพร่กระจายหลังจากที่ได้รับเชื้อมาก่อนที่จะถูกนำตัวไปรักษา คือ 1.ผู้ติดเชื้อที่ไปร่วมละหมาดที่มัสยิด 2.ผู้ติดเชื้อเข้าไปนั่งร้านน้ำชาร่วมกับประชาชน ซึ่งเมื่อผู้ที่ติดเชื้อกลับบ้านก็จะมาติดต่อคนในครอบครัวและได้กระจายติดต่อไปเรื่อยมา
ดังนั้นหามีเคสใดรุนแรงขอให้ทางพื้นที่รายงานทันที โรคนี้ระบาดรุนแรง แต่ถ้าอาการบุคคลทั่วไปอยู่ไม่เกิน 5 % ก็สามารถรักษาให้หายได้ วันนี้จะเพิ่มมาตราการณ์รักษา ป้องกัน คัดกรองให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น ทุกพื้นที่ ทั้งชุมชน ตำบล และอำเภอ โดยต้องการให้ทุกอำเภอมีสถานที่กักกัน 14 วัน โดยต้องมีสถานที่กักกันทุกตำบล ทั้ง 12 อำเภอ และสถานที่กักกันต้องได้มาตราการณ์เดียวทั้งหมด ตำบลใดไม่มีสถานที่กักกันต้องเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดียวนี้ เพราะหากมีผู้ติดเชื้อจะได้นำตัวเข้ารักษาหรือกักกันทันที
ส่วนบุคคลที่เดินทางมาจากต่างประเทศ บุคคลเหล่านี้มีอัตราการติดเชื้อมากที่สุดและเร็ว ซึ่งเราต้องคัดกรองอย่างละเอียดที่สุด ขอให้มั่นใจว่า แนวทางที่เราได้ทำกันมานั้นไปในทางที่ดีและมีมาตราการณ์ที่เข้มงวด
ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวย้ำว่า วันนี้ถ้าตำบลในอำเภอใดไม่ดำเนินการป้องกัน ปล่อยให้ยังคงใช้ชีวิตปกติไม่ระวังป้องกัน ตนจะปิดพื้นที่จุดนั้นทันที และมีมาตราการณ์ลงโทษผู้ที่ต้องรับผิดชอบ และหลายมัสยิดยังคงทำการละหมาดปกติ ถ้ายังไม่งดตามคำสั่งจุฬาราชมนตรี ตนจะปลดผู้ใหญ่บ้านทันที
เราเป็นเจ้าหน้าที่ไม่ควรละเลยปัญหา เราควรมาร่วมกันแก้ปัญหา ตนกำชับทุกพื้นที่ทุกวัน และไม่อยากเห็นใครละเลยพื้นที่ ถึงแม้ว่าบางพื้นที่จะมีการกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือเรื่องใดก็ตาม โดยเอาปัญหาโรคติดต่อเป็นประเด็น ตนรู้เรื่องทั้งหมดและอย่าให้มีหลักฐาน เพราะตนจะดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาดทันที ฉะนั้นทุกคนที่อยู่ที่นี่ ต้องใช้ศักยภาพของตนเองให้มากที่สุด เพื่อยังยั้งสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19
ปาเรซ/ปัตตานี
