หมายเหตุปลายด้ามขวาน โดย ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล 123 “โควิด 19” ได้สร้างสถานการณ์ ณ แผ่นดินปลายด้ามขวานให้เป็น”นิวนอร์มอล”หรือสถานการณ์”ยุคใหม่” ที่ ลดปัญหาหนึ่ง แต่กลับเพิ่ม ปัญหาหนึ่ง ซึ่งเมื่อมองโดยภาพรวม จะพบว่า สถานการณ์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ กำลังจะ”ย่ำแย่”กว่าเดิม และ จำเป็นที่ต้อง ดำเนินการทั้งในเรื่องของความ เร่งด่วน เฉพาะหน้า และแผนงาน ในระยะยาว

หมายเหตุปลายด้ามขวาน โดย ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล 123

“โควิด 19” ได้สร้างสถานการณ์ ณ แผ่นดินปลายด้ามขวานให้เป็น”นิวนอร์มอล”หรือสถานการณ์”ยุคใหม่” ที่ ลดปัญหาหนึ่ง แต่กลับเพิ่ม ปัญหาหนึ่ง ซึ่งเมื่อมองโดยภาพรวม จะพบว่า สถานการณ์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ กำลังจะ”ย่ำแย่”กว่าเดิม และ จำเป็นที่ต้อง ดำเนินการทั้งในเรื่องของความ เร่งด่วน เฉพาะหน้า และแผนงาน ในระยะยาว

 

สิ่งที่ ลดลง จากการแพร่ระบาดของ”โควิด 19” นั้นคือ การก่อเหตุ”รายวัน” จากฝีมือของ”แนวร่วม” ขบวนการแบ่งแยกดินแดน ที่ลดลง เกือบเป็น”ศูนย์” ในห้วง 60 กว่าวันที่ผ่านมา ไม่มีใครเจ็บ ไม่มีใครตาย จาก กระสุนปืน และ สะเก็ดระเบิดแสวงเครื่อง” ทำให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า หายใจได้โล่งขึ้น เพราะเป็น ปีแรก ใน 16 ปี ที่ เดือน”รอมฎอน” เป็น”สีขาว” ไม่เป็น”สีเลือด” ดั่งเช่นทุกๆปีที่ผ่านมา
แต่…สิ่งที่เกิดขึ้นมา โดยมากับ”โควิด 19” คือ ความเดือดร้อนของ”คนรากหญ้า” ซึ่งเป็นคน”ส่วนใหญ่” กว่าร้อยละ 80 ของคนใน 3 จังหวัด คือ ปัตตานี , ยะลา ,นราธิวาส และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา นั้นคือ จะนะ,สะบ้าย้อย,เทพา และ นาทวี
ในพื้นที่ดังกล่าวได้รับผลกระทบ 2 เด้ง ในคราเดียวกัน เด้งแรก หลังจากการใช้มาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ”โควิด 19” ทั้งแต่การ “ล็อกดาวน์” พื้นที่ ปิดจังหวัด หมู่บ้าน ปิดนั้น ปิดนี่ ห้าม นู้น นี่ โน้น ซึ่งเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด และ กฎหมาย กฎระเบียบของ”สาธารณสุข” รวมทั้ง คำสั่งจาก นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการ รวมศูนย์อำนาจในการ”สั่งการ”ไว้ผู้เดียว ทั้งเรื่อง พรก.ฉุกเฉิน ทั้ง เรื่อง”เคอร์ฟิวส์” ที่ ส่งผลกระทบต่อการใช้ ชีวิต ประจำวัน ทำให้คน หยุดอยู่กับบ้าน ตกงาน ไม่มีกิน แต่ไม่ ติดโรค จนกลายเป็น”ความจน” ทั้งแผ่นดิน ซึ่ง จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะจนกว่าคนในภูมิภาคอื่นๆ เพราะ ปกติ คนที่อาศัยอยู่ตรงนี้ ก็มีความยากจนกว่าภูมิภาคอื่นอยู่แล้ว เมื่อมา เจอกับ”โควิด 19” จึงจนยิ่งกว่า หรือจน จนก้าวพ้นความจนไปสู่คำว่า”จัน” แล้วนั่นเอง


เด้งที่ 2 คน ในแผ่นดินตรงนี้ มีปัญหาการ แบกแยกดินแดนมากว่า 100 ปีกว่า ขาดการ พัฒนา เพราะมัวแต่ สู้กับด้วย กำลังอาวุธ ระหว่าง “แนวร่วม” ขบวนการแบ่งแยกดินแดน กับ เจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้อัตราคนว่างงานสูง เป็น แสนๆ คน และคนว่างงานเหล่านี้ ก็เดินทางไป ทำงาน ใน มาเลเซีย ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน ที่มีรั้วติดกัน พูดภาษาใกล้เคียงกัน นับถือ ศาสนาเดียวกัน มี”ดีเอ็นเอ” ที่มาจาก”ชาติพันธุ์”เดียวกัน
เป็นการเดินทางไป ทำงานแบบถูกต้องตามกฎหมายบ้าง แบบไม่ถูกต้องบ้าง หรือที่เรียกว่า”แรงงานเถื่อน”นั่นแหละ ซึ่งฝ่ายมาเลเซียก็มีการ “ผ่อนปรน” กันมาโดยตลอดในหลายสิบปี เพราะความเป็น “ชาติพันธ์ “เดียวกัน “ศาสนา”เดียวกัน นั้นเอง
ประมาณกันว่า ก่อนที่จะมี”โควิด 19” มีแรงงานไทยที่เป็นแรงงานเถื่อน 100,000 -100,500 คน และแรงงานที่ถูกต้องอีก 50,000 คน โดยแรงงานที่ถูกต้อง ส่วนใหญ่เป็นแรงงาน นอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เป็นอาชีพ หมอนวด,สปา แรงงานฝีมือ ในขณะที่แรงงานเถื่อน ทำงานในร้านอาหารที่รู้จักกันว่า”ต้มยำกุ้ง” ที่มีอยู่ถึง 6,000 ร้าน ใน 13 รัฐของมาเลเซีย และแรงงานในภาค เกษตรกร ลูกค้างขายของ ประมง และ อื่นๆ


แรงงานเหล่านี้ ส่งเงินกลับมาให้กับ ครอบครัวในพื้นที่ 3 จังหวัด 4 อำเภอประมาณ 300 กว่าล้านบาทต่อเดือน เพื่อให้ลูกๆ ได้รับการศึกษา ได้สร้างบ้านหลังใหม่ คนในครอบครัวได้”กินอิ่ม นอนอุ่น” เพราะเงินที่ได้จากการใช้ แรงงาน ในประเทศมาเลเซีย นั่นเอง
แต่…วันนี้ “โควิด 19” กำลังสร้าง”จุดเปลี่ยน”ให้เกิดขึ้นกับ นับแสนชีวิต หลายหมื่นครอบครัว เพราะแรงงานเหล่านี้ ต้องเดินทางกลับออกจาก ประเทศมาเลเซีย ทั้งจากการ ผลักดันของ เจ้าหน้าที่มาเลเซีย และกลับมาเอง เพราะในมาเลเซีย ไม่มีงานทำ ไม่มีข้าวให้กินอีกแล้ว จาก พิษของ”โควิด 19”
และที่หนักกว่าเดิม แรงงานกลุ่มที่ยัง “ปักหลัก” อยู่ใน มาเลเซีย ยังหวังว่าจะมีงานทำ เมื่อมาเลเซียเปิดประเทศ หรือผ่อนคลาย กฎระเบียบในประเทศ แต่สุดท้าย เมื่อ มาเลเซีย ประกาศ ปิดประเทศถึงสิ้นเดือน สิงหาคม และอาจจะปิดต่อไปก็ได้ ความหวังที่”ริบหรี่” ของแรงงานเหล่านี้ ก็”ดับวูบ”ลงอย่างสิ้นเชิง
นั้นหมายความว่า”ภาระ” แห่งปัญหาของการ”ว่างงาน” ของความ”ทุกข์ร้อน” ของความ ลำบากยากจน จะเกิดขึ้นในพื้นจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งหมด จำนวนคนว่างงานที่มีอยู่แล้วหลายหมื่นคน เมื่อรวมกับแรงงานที่กลับจาก มาเลเซีย จากเรื่อง”โควิด 19” ในครั้งนี้ ก็จะเพิ่มขึ้นอีกทับเท่าทวีคูณ


คน”ว่างงาน” คนไม่มีงานทำ คือเรื่องใหญ่ที่สุดในสังคม เพราะที่ติดตามาคือ 1 ปัญหาอาชญากรรม 2 ปัญหายาเสพติด 3 ปัญหาความแยกแยกในครอบครัว 4 ปัญหาซึมเศร้า ฯลฯ และสุดท้าย เมื่อหาทางออกไปได้ ก็ฆ่าตัวตาย
นอกจากปัญหาการ ตกงาน ว่างงาน เพราะ”โควิด 19 “ แล้ว อีกปัญหาหนึ่งของ จังหวัดชายแดนภาคใต้คือ นักศึกษาที่จบใหม่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ปีละ 75,000 คน ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาที่”ซ้ำเติม” สถานการณ์ที่ ย้ำแย่ยับเยินอยู่แล้ว ให้ “ย่อยยับ”ยิ่งขึ้น คนเหล่านี้ จะไปทำอะไร ที่ไหน ถ้าในพื้นที่ ไม่มีการลงทุน ไม่มีการสร้างงานใหม่
รวมทั้งในระยะยาว หลังจากที่”โควิด 19” บางเบาลง ก็ไม่ได้หมายความว่า มาเลเซีย จะรับแรงงานที่เดินทางออกมาแล้วกลับเข้าประเทศ เพราะ มาเลเซีย ถือโอกาสที่มีเรื่อง”โควิด 19” นี้แหละ ในการ กวาดล้างแรงงานเถื่อนให้เหลือน้อยที่สุด เพราะที่ผ่านมา ในแต่ละปี มาเลเซียจะจับกุมแรงงานเถื่อน ผลักดัน ให้ออกนอกประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 100,000 คนอยู่แล้ว ประกอบกับการ”โควิด 19” ได้สร้างให้การใช้ชีวิตแบบ”นิวนอร์มอล” ซึ่งจะทำให้ กิจการหลายอย่าง โดยเฉพาะ”ร้านต้มยำกุ้ง” ต้อง ลดน้อยลง และต้องลก แรงงาน ลงด้วย
ดังนั้น จึงจะเห็นว่า ปัญหาใหม่ของ 3 จังหวัด 4 อำเภอของ แผ่นดินปลายด้ามขวาน ที่หนักหนาสาหัสกว่าเหตุการณ์ความไม่สงบ การก่อการร้าย”รายวัน” อย่างแน่นอน ซึ่งทั้งหมดเป็น หน้าที่ของ ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานต่างๆ ที่เป็น ตัวแทนของแต่ละกระทรวงใน”ภูมิภาค” ที่จะต้องมีแผนในการ”รองรับ” แรงงาน ที่ ว่างงาน เหล่านี้

และ นอกจาก หน่วยงานทั้งหมดที่กล่าวมา จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังมี ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.” ที่เป็นหน่วยงานสำคัญ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี มี พ.ร.บ.เป็นของตนเอง มีงบประมาณ ในการทำหน้าที่ใน”มิติ”ด้านการพัฒนา ที่ควบคู่กับ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่รับผิดชอบใน”บริบท” ของงานด้านความ”มั่นคง”เป็นหลัก
สถานการณ์ที่”ไฟใต้”ลดความร้อนแรงลง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าอาจจะ หายใจสะดวกขึ้น แต่สถานการณ์ด้านความ ยากจน ที่ถาโถมเข้ามาในพื้นที่พร้อมกับการมาของ”โควิด 19” คืองานใหญ่ และงานยาก ของ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. และเป็น ศอ.บต. ที่ แบกอยู่บนบ่าไหล่ของ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
ซึ่งผู้อ่านจะได้ฟังถึง รายละเอียด ของการแก้ปัญหาที่เป็นระบบว่า อะไรก่อน ระไรหลัง และจะทำอย่างไรกับ ปัญหา”มหึมา” ที่โดยไม่มีหน่วยงานไหนรู้ล่วงหน้า แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้อง รับมือ ให้ได้ และต้องทำให้สำเร็จ สกู๊ฟชิ้นต่อไป จะได้นำมาเสนอให้ทราบ เพราะปัญหาใหม่ที่เป็น”เรื่องเก่า” ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งนี้ ใหญ่หลวง นัก และหากแก้ไขไม่ทันการณ์ จะส่งผลกระทบและทำให้”ไฟใต้” ถูก บีอาร์เอ็น กระพือให้”โชนแสง” ยิ่งกว่าเดิม ก็เป็นไปได้

 

Related posts