แม่ผู้เสียชีวิตเหตุทหารพรานยิง 3 ศพบนเขาตะเว ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ ส.ส.พรรคประชาชาติ
วันนี้ (24 มิ.ย.63) เวลา 10.30 น. นางฟารีดะห์ อาแว มารดาของนายมะนาซี สะมะแอ หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุทหารพรานหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 45 จ่อยิงศรีษะ เสียชีวิต 3 ราย คือมะนาซี สะมะแอ อายุ 27 ปี, นายบูดีมัน มะลี อายุ 26 ปี และนายฮาพีซี มะดาโอะ อายุ 24 ปี เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2562 เหตุเกิดบนเขาตะเว บ้านอาแน ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส โดยทันทีหลังเกิดเหตุมีข่าวเผยแพร่จากฝ่ายความมั่นคงว่า “ทหารพรานไล่ล่าปะทะกับผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิตพร้อมยึดอาวุธสงครามได้ 2 กระบอก”
และวันต่อมาพลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้แถลงข่าวขอโทษผ่านสื่อมวลชน โดยยอมรับว่า “สำคัญผิดคิดว่าเป็นกลุ่มก่อเหตุรุนแรง” กระทั่งในเวลาต่อมาได้ปรากฎความจริงจากวิถีกระสุนที่ทะลุร่างกายมีลักษณะเหมือนถูกจ่อยิง ไม่ใช่การปะทะกันตามที่เผยแพร่ข่าว และสภาพศพมีร่องรอยฟกช้ำเหมือนถูกทำร้ายร่างกายก่อนเสียชีวิต ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จากพรรคประชาชาติได้หารือประธานสภาผู้แทนราษฎร ถึงข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ และเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย แต่จนถึงขณะนี้ คดียังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทั้งที่ทราบตัวผู้ก่อเหตุชัดเจน
นางฟารีดะห์ อาแว บอกว่า ตนมายื่นหนังสือต่อ ส.ส.พรรคประชาชาติ และกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เพื่อต้องการร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากเวลาล่วงเลยมา 6 เดือนแล้วแต่คดียังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
โดยข้อความในหนังสือเขียนว่า “ข้าพเจ้าในนามครอบครัวของนายมะนาซี สะมะแอ นายฮาฟีซี มะดาโอ๊ะ และนายบูดีมัน มะลี ซึ่งทั้งสามรายถูกเจ้าหน้าที่ทหารพรานยิงเสียชีวิตบนเทือกเขาตะเว ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา
ข้าพเจ้าในนามครอบครัวของทั้งสามคน ขอยืนยันว่าทั้งสามคนเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้มีหมายจับตาม ป.วิอาญา และหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แต่อย่างใด เพียงแต่ว่าทั้งสามคนได้ขึ้นไปบนเทือกเขาตะเว ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพื่อตัดไม้ในพื้นที่ป่าเท่านั้น ซึ่งเป็นอาชีพและวิถีชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่บ้านอาแน อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
บัดนี้ผ่านไปแล้ว 7 เดือน ทางครอบครัวยังไม่ได้รับความเป็นธรรมอะไรสักอย่างเลย และยังไม่ได้นำคนผิดมาลงโทษ หรือเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ทางครอบครัวได้รับแค่เพียงค่าเยียวยาจาก ศอ.บต.คนละ 500,000 บาทเท่านั้นเอง ยังไม่ได้รับความคืบหน้าว่ากระบวนการทางคดีไปถึงไหนแล้ว หรือค่าเยียวยาเพิ่มเติมที่ทางรัฐได้สัญญาไว้กับครอบครัวในที่ประชุมกับชาวบ้าน และครอบครัวก็ยังไม่ทราบว่าตอนนี้ถึงไหนแล้ว ทางครอบครัวจึงขอส่งหนังสือฉบับนี้ เพื่อขอให้ท่านช่วยให้ครอบครัวของข้าพเจ้าได้รับความเป็นธรรมด้วยเถิด”
โดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชาติ พร้อมด้วยพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล และนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ รับหนังสือ และจะนำเรื่องเข้าสู่กรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎรต่อไป
ทีมโฆษกพรรคประชาชาติ
#พรรคประชาชาติ
#PrachachatParty
