ศรีสะเกษ ชาวบ้าน 3 ชุมชนชุมนุมขอให้ย้ายเจ้าอาวาสวัดแฉใช้เงินทอดกฐินร่วม 6 แสนบาทไม่โปร่งใส

ศรีสะเกษ ชาวบ้าน 3 ชุมชนชุมนุมขอให้ย้ายเจ้าอาวาสวัดแฉใช้เงินทอดกฐินร่วม 6 แสนบาทไม่โปร่งใส ขณะที่เจ้าคณะอำเภอเมืองศรีสะเกษมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วขอให้เจ้าอาวาสวัดตัดสินใจเองว่าจะลาออกจากตำแหน่งเมื่อไร

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดแห่งหนึ่ง เขต อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พระครูสันติธรรมานุวัตร เจ้าคณะอำเภอเมืองศรีสะเกษ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ซึ่งเป็นกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เจ้าคณะจังหวัด ศรีสะเกษได้แต่งตั้งขึ้นมา เพื่อมาทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่ชาวบ้าน 3 ชุมชน ประกอบด้วยชุมชนผดุงธรรม ชุมชนวัดหลวง ชุมชนวัดเลียบ ได้มีการร้องเรียนว่า เจ้าอาวาสวัดมีพฤติกรรมในด้านการใช้เงินที่ได้เงินมาจากการทอดกฐินไม่โปร่งใส ไม่ยอมมาร่วมปฏิบัติศาสกิจของสงฆ์ ไม่ทำวัตรเย็น ไม่ออกไปบิณฑบาต การใช้คำพูดวาจาหยาบคายด่าว่าพระเณรและชาวบ้าน ไม่บริหารดูแลวัด ปล่อยให้วัดสกปรกรกรุงรัง ซึ่งได้มีการเชิญ นายสกล อุดมสุข ประธานชุมชนวัดหลวง นายบุญชัย ศรีบุญเรือง ประธานชุมชน นายสุรพันธ์ สมหมายโชติภัทร์ ประธานชุมชนวัดเลียบ พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านและเจ้าอาวาสวัดมาชี้แจงข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นว่า เรื่องตามที่มีการร้องเรียนนั้นมีความเป็นมาอย่างไร

นางอมรา ม่วงพิพัฒน์ อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1617/2 ถ.ศรีสุมังค์ ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ตนและชาวบ้านพากันมาปฏิบัติธรรมและร่วมกันดูแลพัฒนาวัดแห่งนี้มานานแล้ว ซึ่งปกติแล้วจะมีชาวบ้านพากันมาทำบุญจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันพระ แต่ว่านับตั้งแต่เจ้าอาวาสวัดรูปนี้มาเป็นเจ้าอาวาสวัด ทำให้วัดแห่งนี้เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากว่า ไม่ยอมปฏิบัติกิจของสงฆ์ ไม่ยอมทำวัตร อ้างว่า ทำวัตรมานานแล้ว ไม่ทำการดูแลวัดปล่อยให้วัดสกปรกรุงรัง เมื่อพระเณรต้องการจะตัดหญ้าไปขอเงินค่าน้ำมันจากเจ้าอาวาสวัดก็โดนด่าว่า ต่าง ๆ นานา ด่าถึงบุพการีของพระเณร มีอารมณ์ฉุนเฉียวเป็นประจำ ทำให้พระเณรและชาวบ้านไม่กล้าที่จะเข้ามาวัด พระเณรต้องพากันเรี่ยไรเงินมาซื้อน้ำมันเพื่อเติมเครื่องตัดหญ้า ทำการตัดหญ้าภายในวัดเพราะไม่สามารถที่จะทนต่อความรกรุงรังรอบบริเวณวัดได้

นางอมรา กล่าวต่อไปว่า ล่าสุด เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้มีจิตศรัทธาและชาวบ้านได้ร่วมกันจัดทอดกฐินเพื่อหาเงินมาทำการซ่อมแซมบูรณะเมรุเผาศพของวัดที่ใช้งานมานานแล้ว ได้เงินทอดกฐินจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 570,000 บาท ซึ่งเจ้าอาวาสวัดได้เก็บเงินเอาไว้ โดยที่ไวยาวัจกรและคณะกรรมการวัดไม่ได้เข้ามาช่วยดูแลเงินด้วย เพราะว่า เจ้าอาวาสวัดจะเก็บเงินกฐินเอาไว้เอง และไม่ได้มีการทำการบูรณะเมรุเผาศพของวัดแต่อย่างใด เงินจำนวนนี้ก็ไม่ทราบว่า หายไปที่ใด เงินเหลือเท่าไร เมื่อตัวแทนชาวบ้านไปสอบถามก็มักจะโดนด่าว่า และจะชี้แจงการใช้จ่ายเงินที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ให้ชาวบ้านทราบ ทำให้ไวยาวัจกรและกรรมการวัดรวมทั้งชาวบ้านพากันเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมความไม่โปร่งใสของการบริหารเงินของวัด พวกตนจึงขอเรียกร้องขอให้เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษให้ย้ายเจ้าอาวาสวัดรูปนี้ไปอยู่ที่อื่น หรือให้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดรูปใหม่มาบริหารวัดแทน จะทำให้ทราบข้อเท็จจริงว่า การที่ชาวบ้านไม่ยอมมาเข้าวัดนี้เป็นเพราะชาวบ้านหรือว่าเป็นเพราะพระกันแน่ที่ทำให้ชาวบ้านไม่พากันมาเข้าวัดแห่งนี้

เจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ กล่าวว่า อาตมาภาพมีสุขภาพไม่แข็งแรง ชราภาพ เดินเหินไม่ค่อยสะดวก ซึ่งการที่จะทำการพัฒนาซ่อมแซมเมรุเผาศพนั้น ได้วางแผนเอาไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ดำเนินการ เมื่อถึงเวลาอันสมควรอาตมาภาพพร้อมที่จะลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส ไม่ยึดติดกับตำแหน่งแต่อย่างใด เนื่องจากว่า ลูกหลานอยู่ที่บ้านดวนใหญ่ อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ต้องการให้กลับไปอยู่ที่บ้านดวนใหญ่ เพื่อจะได้ช่วยดูแลเพราะเห็นว่า ชราภาพมากแล้ว

พระครูสันติธรรมานุวัตร เจ้าคณะอำเภอเมืองศรีสะเกษ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กล่าวว่า คณะสงฆ์ที่มาตรวจสอบได้รับทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว ซึ่งได้ทำความเข้าใจกับทุกฝ่าย เพื่อให้เรื่องราวต่าง ๆ จบลงด้วยดี โดยได้ขอให้เจ้าอาวาสวัดแห่งนี้พิจารณาเองว่า จะลาออกจากตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดเมื่อไรหรือไม่อย่างไร เพื่อที่เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ จะได้พิจารณาแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดรูปใหม่มาทำหน้าที่แทนเพื่อให้วัดแห่งนี้ ซึ่งอยู่ในตัวเมืองศรีสะเกษได้มีการพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อจะได้ให้ชาวบ้านมาร่วมทำบุญพัฒนาวัดต่อไป////

 

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

Related posts