ศรีสะเกษ ครูบำนาญภูสิงห์ร้องผู้ว่าไม่ได้สิทธิ์นับอายุราชการทวีคูณ เนื่องจากได้มีการจัดตั้ง อ.ภูสิงห์แยกออกจาก อ.ขุขันธ์ และ อ.ภูสิงห์ยังคงเป็นเขตประกาศใช้กฎอัยการศึกอยู่

ศรีสะเกษ ครูบำนาญภูสิงห์ร้องผู้ว่าไม่ได้สิทธิ์นับอายุราชการทวีคูณ เนื่องจากได้มีการจัดตั้ง อ.ภูสิงห์แยกออกจาก อ.ขุขันธ์ และ อ.ภูสิงห์ยังคงเป็นเขตประกาศใช้กฎอัยการศึกอยู่

เมื่อวันที่ 2 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสระกำแพงใหญ่ ศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายนิรัตน์ วันทะวงษ์ ข้าราชการบำนาญ สังกัด สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 สพฐ.พร้อมด้วย นายวรการ น้อยสงวน กับกลุ่มข้าราชการบำนาญครู จำนวน 45 คน ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้ ได้รับผลกระทบและเกิดความเดือดร้อนเสียหาย จากการปฏิบัติหน้าที่ของกรมบัญชีกลางที่ไม่นำระยะเวลาการปฏิบัติราชการระหว่างวันที่ 3 พ.ค.2534 ถึง 12 พ.ย.2541 ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกในเขต พื้นที่ อ.ภูสิงห์ มานับเวลาราชการเป็นทวีคูณประกอบการคำนวณบำเหน็จบำนาญ

ให้แก่ นายนิรัตน์ และคณะ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ปฏิบัติราชการอยู่ในเขตพื้นที่ อ.ภูสิงห์อยู่ในขณะนั้น จึงได้เดินทางมาพบกับ นายสำรวย เกษกุล ผวจ.ศรีสะเกษ เพื่อยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์จาก ผวจ.ศรีสะเกษ ได้โปรดนำเสนอปัญหาและข้อเท็จจริงไปยังกระทรวงการคลังเพื่อคลี่คลายปัญหาต่อไป โดยมี คลังจังหวัดศรีสะเกษ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม จ.ศรีสะเกษ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้

นายนิรัตน์ วันทะวงษ์ ข้าราชการบำนาญ สังกัด สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 แกนนำกลุ่มข้าราชการบำนาญ กล่าวว่า ในประเด็นที่ว่า ในช่วงเวลาระหว่างวันที่ 3 พ.ค.2534 ถึงวันที่ 12 พ.ย.2541 เขตพื้นที่กิ่ง อ.ภูสิงห์หรือ อ. ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เป็นเขตพื้นที่ที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกอยู่หรือไม่ ซึ่งกรณีนี้ ในคดีหมายเลขดำที่ อร.90/2561 หมายเลขแดงที่ อร.51/2565 นางวรวรรณ จินดาวงศ์ อดีตข้าราชการครู ร.ร.บ้านละลม อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เป็นผู้ฟ้องคดี ต่อมาศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยในประเด็นดังกล่าวข้างต้นว่า ระยะเวลาระหว่างวันที่ 2 พ.ค.2534 ถึงวันที่ 12 พ.ย.2541 เขตพื้นที่กิ่ง อ.ภูสิงห์หรือ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เป็นเขตพื้นที่ที่ยังคงมีการประกาศใช้กฎอัยการศึกอยู่ โดยเมื่อเดือน มิ.ย. – ก.ค.2565 ที่ผ่านมา ตนและคณะได้ทำหนังสือถึงกรมบัญชีกลาง เพื่อขอให้แก้ไขคำสั่งที่สั่งจ่ายบำนาญปกติโดยไม่ได้นำระยะเวลาการปฏิบัติ


ราชการในช่วงระหว่าง วันที่ 3 พ.ค.2534 ถึง 12 พ.ย.2541 มาคำนวณนับเวลาราชการเป็นทวีคูณ ซึ่งต่อมา สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 ได้มีหนังสือแจ้งว่า สำนักงานคลังเขต 3 (ผู้รับมอบอำนาจจากกรมบัญชีกลาง) ได้แจ้งตามหนังสือสำนักงานคลังเขต 3 ที่ กค 0425.2/0616 ลงวันที่ 1 ก.ย.2565 เรื่อง การนับเวลาราชการเป็นทวีคูณของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก โดยให้แจ้งแก่ผู้ร้องและคณะทราบว่า “เรื่องอยู่ระหว่างที่กรมบัญชีกลางเสนอกระทรวงการคลังเพื่อขอรับแนวทางในการนับเวลาราชการเป็นทวีคูณของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกและเมื่อได้รับแนวทางปฏิบัติแล้วจะแจ้งให้ทราบโดยเร็ว

แต่จนบัดนี้เวลาได้ล่วงเลยมาพอสมควรแล้ว ก็ยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการแก้ไขเยียวยาใดๆแก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนเสียหายแต่อย่างใด ดังนั้น ผู้ได้รับความเดือดร้อนเสียหายหลายคน จึงจำเป็นต้องยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองเพื่อรักษาสิทธิของตนตามกฎหมายไปก่อน ตนและคณะจึงได้มาขอความอนุเคราะห์จากท่าน ผวจ.ศรีสะเกษ ในฐานะที่ อ.ภูสิงห์เป็นอำเภอที่อยู่ในพื้นที่ของ จ.ศรีสะเกษ เพื่อขอได้โปรดประสานความเข้าใจไปยังกระทรวงการคลังและกรมบัญชีกลางเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาและปลดเปลื้องความทุกข์ความเดือดร้อนให้แก่เหล่าข้าราชการผู้รับบำนาญทั้งหลายซึ่งล้วนแต่เป็นผู้มีอายุมากต่อไปด้วย

นายสำรวย เกษกุล ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนจะได้เร่งดำเนินการประสานงานไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องโดยด่วนที่สุด เพื่อจะได้รับทราบว่า จะมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาเพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือข้าราชการบำนาญที่ได้รับผลกระทบในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง ทั้งนี้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ข้าราชการบำนาญทุกคนของ อ.ภูสิงห์ที่ได้สร้างคุณงามความดีแก่ จ.ศรีสะเกษและประเทศชาติอย่างเต็มที่มาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งถึงเกษียณอายุราชการ/////

 

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

Related posts