ศอ.บต เดินหน้าหนุนวิสาหกิจชุมชน ผุดไอเดียสุดเจ๋ง สร้างต้นแบบ soft power ยกระดับคุณภาพชีวิตคนชายแดนใต้สู่ความยั่งยืน ภายใต้แนวคิด”ปลุกภูมิปัญญาจากขุนเขา สู่ลวดลายอัตลักษณ์บนผืนผ้า”

ศอ.บต เดินหน้าหนุนวิสาหกิจชุมชน ผุดไอเดียสุดเจ๋ง สร้างต้นแบบ soft power ยกระดับคุณภาพชีวิตคนชายแดนใต้สู่ความยั่งยืน ภายใต้แนวคิด”ปลุกภูมิปัญญาจากขุนเขา สู่ลวดลายอัตลักษณ์บนผืนผ้า”

วันที่ 20 มีนาคม 2566 ที่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน BARAHOM PARZAAR ตำบลบาราโหม อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วยนางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี/ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ด้านการมีส่วนร่วม) และนางสุนิสา รามแก้ว ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. (กรมประชาสัมพันธ์) ลงพื้นที่ร่วมกิจกรรมการแสดงงานผ้าภายใต้แนวคิด “ปลุกภูมิปัญญาจากขุนเขา สู่ลวดลายอัตลักษณ์บนผืนผ้า” โดยมีว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ เข้าร่วม

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวถึง พื้นที่แห่งนี้คือต้นแบบในการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่มีอยู่ในพื้นที่มาสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน ซึ่งเป็น การนำ soft power มาใช้ให้เกิดประโยชน์และลงตัว โดยเฉพาะการนำสีจากเมล็ดกาแฟมาทำสีย้อมผ้าและเอาลวดลายจากถ้ำคอกซึ่งมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานมาพิมพ์ลายลงบนผืนผ้า อีกทั้งยังใช้ลวดลายจากเศษซากกระเบื้องข้าวของเครื่องใช้โบราณมาพิมพ์เป็นลาย ถือเป็นการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและมีอัตลักษณ์เฉพาะในพื้นที่จังหวัดปัตตานีและสงขลาทำให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ดังนั้นทุกภาคส่วนควรที่จะต้องช่วยกันผลักดันและส่งเสริมให้เกิดความยั่งยืน เพราะถือว่ากลุ่มวิสาหกิจทั้ง 2 กลุ่มนี้ได้ก้าวเดินมาในทิศทางที่ถูกต้อง ต้องขอขอบคุณภาคส่วนราชการในพื้นที่ที่ได้ช่วยกันผลักดันให้เกิดความยั่งยืนกับคนชายแดนใต้ต่อไป

ด้านนางฟารีดา กล้าณรงค์ หัวหน้ากลุ่มบาราโหมบาร์ซา เปิดเผยถึงแนวคิดในการนำสีของกาแฟมาทำสีย้อมผ้าว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการทำผ้าบาติก ซึ่งการนำกาแฟมาทำสีย้อมผ้าได้ผสมผสานกับวัตถุดิบที่มีอยู่ในพื้นที่ ซึ่งมีจุดเด่นไม่เหมือนใคร ถือเป็นสิ่งที่น่าค้นหาและมีกลิ่นอายของศิลปะวัฒนธรรมลงเหลืออยู่มาวาดลวดลายสร้างมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนได้มีอาชีพเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ อยากจะเชิญชวนผู้ที่สนใจสามารถแวะเวียนเข้ามาอุดหนุนสินค้าจากภูมิปัญญาชาวบ้านได้ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแห่งนี้ในราคาที่ย่อมเยาว์

ขณะที่นายจีรวัฒน์ นุ่นศรี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรผสมผสานรักบ้านเกิด ตำบลเขาแดง อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา กล่าวด้วยว่า การนำผลผลิตจากเมล็ดกาแฟที่ตกเกรดไม่สามารถผลิตเป็นผลิตภัณฑ์กาแฟที่มีคุณภาพได้ เกิดจากแนวคิดในการนำสีของกาแฟมาย้อมลงบนผืนผ้า ดึงลวดลายที่เชื่อมโยงประวัติศาสตร์มาสื่อสารให้เกิดความหมาย สร้างความสวยงามบนผืนผ้า ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่เข้ามาส่งเสริมสนับสนุนจนประสบความสำเร็จพร้อมทั้งหาช่องทางทางการตลาดให้สามารถมีแหล่งรองรับผลิตภัณฑ์ ตลอดจนหาผู้ที่มีองค์ความรู้มาเพิ่มเสริมทักษะให้กลุ่มวิสาหกิจได้นำไปต่อยอดจนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าและมีรายได้ที่ยั่งยืง

สำหรับกิจกรรมการแสดงงานผ้าภายใต้แนวคิด “ปลุกภูมิปัญญาจากขุนเขา สู่ลวดลายอัตลักษณ์บนผืนผ้า” เป็นความร่วมมือจากผู้ประกอบการกลุ่มวิสาหกิจชุมชน BARAHOM PARZAAR ตำบลบาราโหม อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี และผู้ประกอบการกลุ่มวิสาหกิจกาแฟดำโรบัสต้า ตำบลถ้ำคอก อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลาซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่ได้นำผลผลิตกาแฟซึ่งถือเป็นต้นทุนที่มีอายุยาวนานกว่า 300 ปี มาสกัดเป็นสีย้อนผ้าพิมพ์ลวดลายจากร่องรอยมรดกทางวัฒนธรรมในพื้นที่มาสรรสร้างลงบนผืนผ้าผสมผสานภูมิปัญญาชาวบ้าน อันมีเอกลักษณ์ที่หลงเหลืออยู่ภายในชุมชนผลิตเป็นสินค้าผ้าบาติกสร้างอาชีพกระจายรายได้สู่ชุมชน

นอกจากนี้ภายในกิจกรรมยังมีการมอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กกำพร้า จำนวน 16 ทุน และวากัฟ(การบริจาคเพื่อสาธารณกุศล)ให้แก่มัสยิด ในโอกาสย่างเข้าสู่เดือนรอมฏอน ฮ.ศ. 1444 ซึ่งเป็นเดือนอันประเสริฐของพี่น้องชาวไทยมุสลิมด้วย

ภาพข่าว/ข่าว ส่วนงานประชาสัมพันธ์ ศอ.บต.

Related posts