อบรมหลักสูตรการเมืองประชาชาติ รุ่นที่ 3 ที่ยะลาสุดคึกคัก “วันนอร์” ปลุกเลือก “พรรคของเรา” พรรคของคนชายแดนใต้ ขอ ส.ส. 15 ที่นั่ง ได้เป็นรัฐบาล ขยายโควต้าฮัจย์ให้ถึง 2 หมื่นคน ขณะที่ “ทวี สอดส่อง” ย้ำปณิธานพรรค ขจัดความยากจน ลดเหลื่อมล้ำ หนุนกระจายอำนาจ “จังหวัดจัดการตนเอง” ลั่นสมัยหน้าต้องเป็นรัฐบาลเท่านั้น ชูผลงานปลดล็อกหนี้ กยศ. แม้เป็นฝ่ายค้านก็สู้เต็มที่
ที่ห้องประชุมมูลนิธิมะทา จ.ยะลา สถาบันการเมืองประชาชาติ นำโดย นายวันมูหะมัตนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค, นายซูการ์โน มะทา ส.ส.ยะลา เขต 2, นายกูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส เขต 3, นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ส.ส.ปัตตานี เขต 4, นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส เขต 4 และ นายอับดุลอายี สาแม็ง ส.ส.ยะลา เขต 3 พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคประชาชาติใน จ.ยะลา กว่า 1,000 คน เข้าร่วมอบรมหลักสูตรการเมืองประชาชาติ รุ่นที่ 3
นายวันมูหะมัตนอร์ มะทา กล่าวตอนหนึ่งว่า ในอดีตเคยเป็น “อะมีรุ้ลฮัจย์” ทำหน้าที่นำพี่น้องมุสลิมไปประกอบพิธีฮัจย์ ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งในขณะนั้นประเทศไทยเราได้รับการจัดสรรโควต้าผู้แสวงบุญไปทำพิธีฮัจย์ 22,000 กว่าคน และไม่เคยมียุคไหนที่พี่น้องเราสามารถได้รับโควต้ามากเท่านั้น และหากพรรคประชาชาติได้เป็นรัฐบาล พี่น้องของเราจะต้องได้รับการจัดสรรโควต้า 20,000 กว่าคนอีกครั้งอย่างแน่นอน
“ที่สำคัญคือ ทุกคนต้องมาร่วมมือ รวมพลังสร้างพรรคประชาชาติให้ได้ ส.ส. 15 คน กลับไปบอกเครือข่ายต่อไป เราจะเห็นแล้วว่าคนบุรีรัมย์เขาเลือกพรรคของคุณเนวิน (นายเนวิน ชิดชอบ) คนเชียงใหม่เขาเลือกพรรคของคุณทักษิณ (นายทักษิณ ชินวัตร) คนชลบุรีเขาเรียกเลือกพรรคพลังชล ผมก็หวังว่าในการเลือกตั้งคราวหน้า คนจังหวัดชายแดนภาคใต้รวมทั้งสงขลาและจังหวัดใกล้เคียงจะเลือกพรรคประชาชาติที่เป็นพรรคของเรา”
“ท่านทั้งหลายก็คงจะเห็นแล้วว่า ตั้งแต่หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และ ส.ส.ทุกคน เราไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าพรรคอื่น กลับตรงข้าม เรามีความรู้ความสามารถ และได้ทำหน้าที่อย่างสมศักดิ์ศรีที่สุดแล้วในสภา ในรอบ 3-4 ปีนี้ เพราะฉะนั้นต่อไปก็เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่จะต้องสร้างพรรคนี้ต่อไป”
“ผมเองก็อยู่ได้ไม่นาน แต่เมื่อพรรคนี้เกิด เมื่อมีบ้านที่อยู่อาศัยของพวกเรา ก็เป็นหน้าที่ของพวกเราจะสร้าง หวังว่าบ้านหลังนี้จะเจริญเติบโตต่อไป บ้านหลังนี้ต้องมีคนมากขึ้น” หัวหน้าพรรคประชาชาติ ระบุ
ด้าน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า พรรคประชาชาติเราคิดทำเพื่อประชาชน วันนี้เราจะไปด้วยกัน คืออย่างน้อยที่สุดอีก 6 เดือน รัฐบาลนี้ครบ 4 ปี ถ้าไม่ไป 8 ปีเสียก่อน (หมายถึงคณะรัฐมนตรีพ้นตำแหน่งทั้งคณะ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี) เราจะมีการเลือกตั้ง เราตั้งปณิธานว่า เราจะทำความเหลื่อมล้ำให้หมดไป เราจะแก้ปัญหาความยากจน และจะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ทำให้เมืองมีความเจริญรุ่งเรือง สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะต้องเกิดด้วยมือพวกเรา โดยเฉพาะนโยบายของพรรคประชาชาติ
“ขณะนี้แม้เราไม่ได้เป็นรัฐบาล วันที่ 14 ก.ย.นี้ ถ้าเราแก้ พ.ร.บ.กยศ.ได้ (ร่างพระราชบัญญัติกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา) อย่างน้อยพี่น้องเราไปเรียนหนังสือก็จะไม่มีดอกเบี้ย จะไม่มีเบี้ยปรับ และจะย้อนไปถึงในอดีต ทุกคนที่กู้เงิน กยศ. จะไม่มีดอกเบี้ย เบี้ยปรับ แต่ว่าคนมีหนี้ก็ต้องใช้หนี้ แต่อย่างน้อยที่สุด คนไทย 6 ล้านคนที่ติดหนี้ กยศ.จะได้ผ่านพ้นปัญหาหนี้ กยศ. อันนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่พรรคถือว่าเป็นกำลังสำคัญในการไปแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในเรื่องหนี้ กยศ.”
“อยากให้ทุกคนได้คิด เราอย่าไปยืมจมูกคนอื่นหายใจ เรามีชีวิตอยู่อย่าไปใช้เครื่องออกซิเจนหายใจ เราต้องยืนด้วยตัวเอง ก็คือต้องทำการกระจายอำนาจด้วยการบริหารการปกครอง ส.ส.ซูการ์โน (นายซูการ์โน มะทา ส.ส.ยะลา เขต 2) เป็นประธานกรรมาธิการการกระจายอำนาจฯ สภาผู้แทนราษฎร ได้ศึกษาเรื่องจังหวัดจัดการตนเอง ก็คือจังหวัดไหนพร้อมก็ทำประชามติว่าเราจะเลือกตั้งผู้ว่าฯหรือไม่ คำว่าผู้ว่าฯ ก็คือเอาอำนาจไปให้ นายก อบจ. นี่คือตัวอย่าง”
“นอกจากนั้นจะไปแก้ปัญหาคนไม่มีที่อยู่อาศัย ต้องมีที่อยู่อาศัย อันนี้เป็นหลัก แต่เราสามารถทำได้ เพราะพื้นที่ของเราอุดมสมบูรณ์ไปหมด อุดมสมบูรณ์ทุกอย่าง สิ่งที่เราขาดก็คือเราถูกครอบงำ เราถูกนำทรัพยากรไปเป็นของรัฐ”
“สมัยหน้าเราจะต้องไม่มีปัญหากับใคร เราอยากไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาล และการจัดตั้งรัฐบาลไม่ใช่เพื่อหวังตำแหน่งของคนในพรรคประชาชาติ แต่เพราะเราเห็นว่าปัญหาของชาติ คนที่มีอำนาจอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถแก้ไขได้ แต่ด้วยสติปัญญาของพวกเรา ในพรรคเรา เชื่อมั่นว่าเราจะแก้ได้”
“อย่างน้อยที่สุดถ้าเราได้เป็นรัฐบาล เราควรจะมี ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 15 คน อันนี้พวกเราพี่น้องต้องรวมพลังสร้างพรรคประชาชาติให้ได้ ส.ส. 15 คน เพื่อจะทำให้เราได้ไปเป็นรัฐบาล”
