“ประชาธิปัตย์” ยุค”จุรินทร์” ทำได้ไว ,ทำได้จริง ชู”ยุทธศาสตร์ 3 ส. สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ เดินหน้าฝ่าดง”กระสุนเงิน” เข้าสู่โหมด เลือกตั้ง

“ประชาธิปัตย์” ยุค”จุรินทร์” ทำได้ไว ,ทำได้จริง ชู”ยุทธศาสตร์ 3 ส. สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ เดินหน้าฝ่าดง”กระสุนเงิน” เข้าสู่โหมด เลือกตั้ง


นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ผู้อำนวยการเลือกตั้ง” พรรคประชาธิปัตย์” ได้เปิดเผยว่า พรรคฯ ได้มีการติดแผ่นป้ายหาเสียง หรือโปสเตอร์” ในการหาเสียง” ในทุกพื้นที่แล้ว โดยการชู”ยุทธศาสตร์” 3 ส. นั้นคือการ”สร้างเงิน,สร้างคน, สร้างชาติ” เพื่อใช้เป็น นโยบาย” ในการ”หาเสียง”ครั้งนี้ โดยแยกเป็น 2 ส่วน คือ สร้างเงินให้กับประเทศ และสร้างเงินให้กับประชาชน ซึ่งในการ สร้างเศรษฐกิจ” และการแก้ปัญหา”ปากท้องของ ประชาชน จะต้อง “ขับเคลื่อน” ให้ทั้ง 2 ส่วนเดินไปด้วยกันให้ได้


เช่นเดียวกับการ”สร้างคน” ที่ต้องเริ่มสร้างตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของมารดา จนไปสู่”เชิงตะกอน” เช่นต้องได้รับการดูแลในเรื่อง”สุขอนามัย” และได้รับการ”ศึกษา”ตั้งแต่ในวัยเยาว์ จนถึงการเรียนจบการศึกษา และมีอาชีพ ที่มั่นคง มีครอบครัวที่อบอุ่น ทุกอาชีพ ได้รับการดูแล โดยมี”สวัสดิการ” ซึ่งการสร้างคนที่มีคุณภาพ จะเป็นกำลังสำคัญ ในการพัฒนาประเทศชาติ ให้มีความมั่นคง ที่นำไปสู่การ”สร้างชาติ” ด้วยการพัฒนา ระบบสาธารณูประโภค สาธารณูประโยชน์ เชื่อมต่อประเทศไทยไปสู่ประเทศต่างๆทั่วทุกมุมโลก ที่สำคัญการสร้างชาติด้วย”ระบอบประชาธิปไตย” โดยมี”พระมหากษัตริย์เป็นประมุข” ให้ประชาชน มี สิทธิ มีเสียง ในการ เลือกตั้ง ที่ บริสุทธิ์ ยุติธรรม สุจริต และ ซื่อสัตย์ ควบคู่กับการ”กระจายอำนาจ” ซึ่งเป็นไปตามการ พัฒนา ของการปกคารอง ในระบอบประชาธิปไตย


ซึ่ง นายนิพนธ์ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า “ยุทธศาสตร์” 3 ส. ของ พรรคประชาธิปัตย์ เป็น “ยุทธศาสตร์”ใหญ่ ที่ มีการ แตกเป็นข้อย่อยๆ เพื่อใช้ในการในการทำความชี้แจงนโยบายของพรรคให้กับประชาชนในแต่ละพื้นที่ หรือการ”หาเสียง” ซึ่งพรรคฯ เชื่อว่า นโยบาย”สร้างเงิน,สร้างคน,สร้างชาติ เป็น นโยบาย ที่ สามารถนำพา ประชาชน และ ประเทศชาติ ไปสู่ความ”มั่งคั่ง ยั่งยืน” อาจจะไม่ใช่ นโยบายที่”หวือหวา” เหมือกับที่ หลายพรรคการเมือง ใช้ในการ”หาเสียง” เพราะ”ประชาธิปัตย์” เน้นในเรื่องที่ ทำได้ไว ทำได้จริง อย่างที่เคยทำมาแล้ว
ประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมือง ที่เมื่อออกนโยบายมาแล้วต้อง”ทำได้จริง ทำได้ไว” เช่น ในอดีตเคยทำสำเร็จมาแล้ว ในกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่เรื่อง “นมโรงเรียน,อาหารกลางวันเด็ก” เงินกู้ยืมเรียน หรือ กยศ. และอื่นๆ ที่ ทุกวันนี้ นโยบายที่ ประชาธิปัตย์ วางไว้ ยังใช้ได้ในปัจจุบัน หรือเรื่องของ “อสม. เรื่องของเงิน”ผู้สูงอายุ” ก็มาจาก ประชาธิปัตย์ ในครั้งที่เข้าไปรับผิดชอบ กระทรวงศึกษาธิการ และ ยังใช้ได้ถึงวันนี้ และ พรรคการเมืองอื่นๆ ใช้ นโยบายนี้ในการ”หาเสียง” โดยแท้จริง แล้วล้วนเป็น ผลงาน ที่ ประชาธิปัตย์ ทำเอาไว้ ทั้งสิ้น
ที่เห็นชัดคือเรื่อง”การกระกันรายได้ของเกษตรกร” ในพืช 5 กลุ่ม เช่น ยางพารา ,ปาล์มน้ำมัน,มันสัมปะหลัง ข้าวโพด และ อ้อย “ เป็นต้น ซึ่ง เงินประกันรายได้ ถูกโอนตรงให้กับ เกษตรกร ไม่รั่วไหล ไม่ตกหล่นกลางทาง และถึงแม้ว่า ในบางช่วงเวลา ราคาผลผลิต ตกต่ำ เกษตรกร ก็ไม่เดือดร้อน เพราะได้รับเงินประกันราคาเป็นการชดเชย จะเห็นว่า เกือบ 4 ปี ของ รัฐบาลชุดนี้ ที่ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ รับผิดชอบ กระทรวงพาณิชย์ และ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกษตรกร ไม่ได้ออกมา ชุมนุม ประท้วง รัฐบาล ในเรื่องของ ราคาผลผลิตที่ตกต่ำ เพราะมีการ “ประกันราคา” ที่เป็นการ ช่วยเหลือเกษตรกร นั่นเอง
วันนี้ “ประชาธิปัตย์” มีความพร้อมกว่า 90% ในสนามการเลือกตั้ง และมีการวางตัวผู้สมัครครบทั้ง 400 เขต ทั่วประเทศ แต่ที่”เชื่อมั่น” ว่าจะได้ สส.เขต มีอยู่ 100 เขต ในส่วนของ สนามภาคใต้ ยังยืนว่าเราจะได้ สส. 35 คน เป็นอย่างต่ำ และ 40 คน เป็นอย่างสูง เรื่องการ”ไหลออก” ของ สส. นั้น ในอดีตก็เคยเป็น แต่ในอดีตการการ “ไหลออก” ครั้งเดียวจบ แต่ครั้งนี้ “ไหลออก”ไม่มาก แต่เป็นการ”ไหลออก” ที่เป็นไปเรื่อยๆ จนทำให้คนภายนอกเห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ “เลือดไหลไม่หยุด” ซึ่งก็สร้างความกระทบกระเทือนให้พรรคบ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะพรรคอื่นๆ ก็เป็น เช่นเดียวกัน เพียงแต่ สังคม ให้ความสนใจ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่เป็นพรรคเก่าแก่ ที่เป็นเหมือน สถาบันทางการเมือง ซึ่ง แสดงให้เห็นว่า ประชาชน ให้ความสำคัญ กับความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ มากกว่าพรรคการเมือง อื่นๆ นั่นเอง
“ก็ต้องรับว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า เป็นการต่อสู้ที่หนักหนากว่าทุกครั้ง โดยเฉพาะ”พลังดูด” และการ”ตกปลาในบ่อเพื่อน” รวมทั้ง “กระการใช้เงิน” ที่ “ประชาธิปัตย์ เสียเปรียบ แต่ก็ต้องฟันผ่า ปัญหา และ อุปสรรค เพราะ ประชาธิปัตย์ ยังเชื่อมั่นใน ระบบประชาธิปไตย และ เชื่อมั่นในความเป็น”ประชาธิปัตย์” ที่ ยังได้รีบการ”โอบอุ้ม” จาก ประชาชน ในฐานะที่ ประชาธิปัตย์ เป็น พรรคการเมือง ที่มี”อุดมการณ์ทางการเมือง” เรา ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านจุดที่ตกต่ำที่สุด และรุ่งเรืองที่สุดมาแล้ว จึงไม่หวั่นไหว กับการเลือกตั้งที่มีการใช้”วิชามาร” ในการเลือกตั้งครั้งนี้ “

Related posts