คณะกรรมาธิการการพลังงาน วุฒิสภา เดินทางไปร่วมประชุมกับหน่วยงานด้านพลังงาน

 

คณะกรรมาธิการการพลังงาน วุฒิสภา เดินทางไปร่วมประชุมกับหน่วยงานด้านพลังงาน

วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม 2568 คณะกรรมาธิการการพลังงาน วุฒิสภา นำโดย นายพรเพิ่ม ทองศรี ประธานคณะกรรมาธิการ พร้อมด้วยกรรมาธิการ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ที่ปรึกษา นักวิชาการ เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการ ได้เดินทางไปร่วมประชุมกับหน่วยงานด้านพลังงาน ดังนี้
เวลา 09.00 นาฬิกา เข้าร่วมรับฟังบรรยายสรุป และพบปะแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับนโยบายการบริหารจัดการพลังงาน ในพื้นที่เขื่อนรัชชประภา แผนงานรองรับการผลิตไฟฟ้าเพื่อการใช้งานในพื้นที่ภาคใต้ และแนวทางการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนปัญหาอุปสรรค ในการดำเนินงานของเขื่อน
และโรงไฟฟ้า ณ อาคารที่ทำการโรงไฟฟ้า เขื่อนรัชชประภา การไฟฟ้าฝายผลิตแห่งประเทศไทย โดยนายสุบิน เนตรสว่าง ผู้อำนวยการเขื่อนรัชชระภา ให้การต้อนรับและให้ข้อมูลภาพรวมสรุปถึงกำลังการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ 31,081 MW โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ที่มีกำลังการผลิต 3,074 MW มาจากการผลิตของโรงไฟฟ้าเขื่อนรัชชประภา 240 MW นอกจากนี้ยังได้นำเสนอเกี่ยวกับโครงการด้านพลังงานทพแทนในอนาคตของ กฟผ. ทั้งในเรื่องของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แบบ SMRโครงการ HYDRO-FLOATING SOLAR HYBRID โดยในส่วนของ กฟผ.เขื่อนรัชชประภา ได้รับมอบหมายให้จัดหาพลังงานแสงอาทิตย์หุ่นลอยน้ำ 140 เมกะวัตต์ ในปี 2577 และส่วนต่อขยาย 100 เมกะวัตต์ในปี 2579 รวมทั้งสิ้น 240 เมกะวัตต์ เพื่อมุ่งสู่การลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามแผนของประเทศ

เวลา 13.30 นาฬิกา รับฟังบรรยายสรุป และพบปะแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของบริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับนโยบายการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทดแทน (การผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล) การบริหารจัดการโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ ธุรกิจพลังงานไฟฟ้าจากขยะชุมชน และแผนงานการส่งเสริมความเป็นกลางทางคาร์บอน และการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะต่าง ๆ โดยนายสืบตระกูล บินเทพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ให้การต้อนรับและนำเสนอข้อมูลภาพรวมการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งบริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจในการผลิตกระแสไฟฟ้าจากชีวมวล กำลังการผลิตติดตั้ง 29.7 เมกะวัตต์ โดยเป็นการนำวัสดุเหลือใช้จากอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันปาล์มมาเป็นเชื้อเพลิงซึ่งเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ และการผลิตกระแสไฟฟ้าจาขยะชุมชน กำลังการผลิตติดตั้ง 46.8 เมกะวัตต์ โดยเป็นการกำจัดขยะมูลฝอยจากในชุมชนและนำมาสู่การผลิตไฟฟ้า รวมทั้ง การบริหารจัดการโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ กำลังการผลิตติดตั้ง 7 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นการนำน้ำเสียเหลือทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรมของกลุ่มมาผลิตไฟฟ้า โดยคณะกรรมาธิการได้ตั้งประเด็นข้อสังเกตเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยในการกักเก็บก๊าซชีวภาพในพื้นที่โรงงาน และการส่งเสริมอุตสาหกรรมในพื้นที่ชุมชนตลอดจนการอยู่ร่วมกับชุมชนของกลุ่มอุตสาหกรรม

Related posts