รองนายกรัฐมนตรี สั่งการ 7 หน่วยงาน เตรียมรับมือฝุ่น PM 2.5 . จังหวัดเชียงใหม่ ขานรับนโยบายรัฐบาล ผนึกกำลังทุกภาคส่วนบูรณาการเตรียมรับมือฝุ่น PM 2.5 ตั้งเป้าลดตัวชี้วัดทุกข้อให้ได้มากกว่า 20%

 

รองนายกรัฐมนตรี สั่งการ 7 หน่วยงาน เตรียมรับมือฝุ่น PM 2.5
.
จังหวัดเชียงใหม่ ขานรับนโยบายรัฐบาล ผนึกกำลังทุกภาคส่วนบูรณาการเตรียมรับมือฝุ่น PM 2.5 ตั้งเป้าลดตัวชี้วัดทุกข้อให้ได้มากกว่า 20%
.
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ที่ห้องปฏิบัติการ POC ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายศิวกร บัวป้อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ปี 2569 ผ่านระบบการประชุมทางไกล (VCS) โดยมี นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
.
นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ 7 หน่วยงาน ประกอบด้วย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เฝ้าระวังและควบคุมการเผาในพื้นที่อย่างเข้มงวด และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด กระทรวงกระเกษตรและสหกรณ์ ให้กำกับควบคุมให้เป็นไปตามแนวทางการบริหารการเผาในพื้นที่เกษตร ส่งเสริมให้นำเศษวัสดุทางการเกษตรไปแปรรูปและเพิ่มมูลค่าแทนการเผา กระทรวงคมนาคมให้บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ ตรวจจับยานพาหนะควันดำโดยเคร่งครัด กระทรวงอุตสาหกรรม ให้ตรวจวัดมลพิษทางอากาศของโรงงานอุตสาหกรรมและบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด กระทรวงสาธารณสุขให้คำแนะนำประชาชนเกี่ยวกับการปฎิบัติตนในการดูแลสุขภาพ การจัดเตรียมห้องปลอดฝุ่น จัดพื้นที่ปลอดภัยให้กับประชาชน กรมประชาสัมพันธ์ให้สร้างการรับรู้ให้ประชาชนทราบถึงสถานการณ์ มาตรการ ข้อกฎหมาย และบทลงโทษ รวมทั้งสร้างความเข้าใจการทำงานของหน่วยงานภาครัฐในทุกมิติ และกระทรวงมหาดไทยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด รวมถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมบูรณาการในการแก้ไขปัญหากับส่วนราชการทุกระดับในพื้นที่ในทุกมิติ
.
ทั้งนี้กรมควบคุมมลพิษ ได้รายงานสถานการณ์และมาตรการรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ด PM 2.5 ปี 2569 ว่า แหล่งกำเนิดของฝุ่น PM 2.5 ส่วนใหญ่สาเหตุมาจากการเผาในที่โล่ง รองลงมาคือการเผาในที่ป่า และจากการเปรียบเทียบสถานการณ์ตั้งแต่ปี 2564 – 2568 พบว่าระยะเวลาการเผามีช่วงแคบลง และในปี 2568 จุดความร้อนทั่วประเทศมีสถิติที่ลดลง โดยเฉพาะในพื้นที่ป่า พื้นที่เกษตร และอื่นๆ สำหรับการรับมือในปี 2569 นั้น ตั้งเป้าจะต้องลดพื้นที่เผาไหม้ ให้ได้อีก 10-20% ลดค่าเฉลี่ย PM 2.5 5-10% และลดจำนวนวันที่ฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน 5% โดยมุ่งขับเคลื่อนในพื้นที่เกษตร เน้นการนำเศษวัสดุทางการเกษตรใช้เป็นเชื้อเพลิงชีวมวล ในพื้นที่ป่า วางแผนวางจุดเฝ้าระวังในพื้นที่ 14 กลุ่มป่าในภาคเหนือ ในพื้นที่เขตเมือง มุ่งเน้นในการควบคุมการตรวจจับควันดำ รณรงค์ให้หันมาใช้รถ EV ส่วนปัญหาในเรื่องหมอกควันข้ามแดน จะมุ่งควบคุมการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปลอดการเผาและเปิดรับการนำเข้าแหล่งอื่นทดแทน
.
ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้รายงานถึงมาตรการและแนวทางการป้องกัน รับมือกับฝุ่น PM 2.5 ในปี 2569 ที่จะถึงนี้ว่า จังหวัดเชียงใหม่มุ่งเน้นการทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วนแบบบูรณาการ โดยแบ่งการดำเนินการออกเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงก่อนเกิดสถานการณ์ ขณะเกิดสถานการณ์ และหลังเกิดสถานการณ์ ที่สำคัญมีการกำหนดช่วงเวลาการห้ามเผาอย่างจริงจัง ส่งเสริมให้ประชาชนใช้วิธีการไถกลบแทนการเผา ตรวจจับควันดำอย่างเข้มงวด ตลอดจนการเตรียมความพร้อมในการรับมือจัดเตรียมอุปกรณ์ กำลังพล ห้องลดฝุ่น ไว้รองรับเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน และการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในพื้นที่อย่างเหมาะสม โดยในปี 2569 จังหวัดได้กำหนดเป้าหมายว่าจะลดจำนวนจุดความร้อน 25% จาก 8,505 จุด เหลือ 6,379 จุด ลดพื้นที่เผาไหม้ 25% จาก 829,728 ไร่ เหลือ 622,296 ไร่ ลดจำนวนวันที่ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน 20% จาก 80 วัน เหลือ 64 วัน และลดจำนวนผู้ป่วย COPD เข้ารับการรักษา 20% จาก 17,798 ครั้ง เหลือ 14,238 ครั้ง โดยเทียบจากค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง
.

ดาวน์โหลดคลิปวิดีโอได้ที่ลิงก์
https://drive.google.com/file/d/1dB4GMD7WV3ShQBoKcbxw5v2A6OMLeW7J/view?usp=drivesdk

Related posts