กมธ.วิพิทักษ์ฯ จัดสัมมนา เรื่อง “รักในหลวงห่วงใยลูกหลาน ร่วมกันสร้างผู้นำจิตอาสาด้านความปลอดภัยอย่างยั่งยืนเพื่อพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์”
วันที่ 2 เมษายน 2568 เวลา 13.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุมสัมมนา B1-1 ชั้น B1 อาคารรัฐสภา คณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา ร่วมกับ คณะอนุกรรมาธิการศึกษาและเสนอแนะแนวทางด้านการสื่อสารในการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ จัดสัมมนา เรื่อง “รักในหลวงห่วงใยลูกหลาน ร่วมกันสร้างผู้นำจิตอาสาด้านความปลอดภัยอย่างยั่งยืนเพื่อพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์” โดยมี พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ กล่าวเปิดการสัมมนา นายอมรศักดิ์ กิจธนานันท์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ กล่าวรายงาน พร้อมด้วย คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ สมาชิกวุฒิสภา คณะอนุกรรมาธิการฯ คณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน คณะกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนน รัฐสภา หน่วยงานภาครัฐ นางปัณณิตา สท้านไตรภพ เลขาธิการวุฒิสภา ผู้บริหารและบุคลากรสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เข้าร่วม
.
โอกาสนี้ ได้รับเกียรติจากนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เข้าร่วมการสัมมนาในครั้งนี้ด้วย
.
ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้พิจารณาเห็นว่า สังคมในยุคปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญควบคู่กันไปคือการปลูกฝังจิตสำนึกในการเสียสละเพื่อสังคมส่วนรวม การส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนได้พัฒนาทักษะความรู้ด้านความปลอดภัยเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นสำหรับประชาชน รวมทั้งเด็กและเยาวชน เพื่อให้เกิดทักษะในการใช้ชีวิตและลดความสูญเสีย ด้วยการน้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเรื่องของการเป็นจิตอาสาด้านความปลอดภัยที่ทุกฝ่ายต้องมีความรับผิดชอบและมีบทบาทในการดูแลสังคม จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องร่วมกันปลูกฝังทักษะในการพัฒนาเพื่อสร้างผู้นำจิตอาสารุ่นใหม่ที่จะเป็นเครือข่ายและสามารถเผยแพร่ความรู้ขยายผลไปสู่ครอบครัว ชุมชน และสังคมไทยในวงกว้าง อีกทั้งยังช่วยปลูกฝังจิตสำนึกในการเป็นจิตอาสาด้านความปลอดภัย ทั้งในระดับบุคคลและส่วนรวม ซึ่งจะเป็นรากฐานของความมั่นคงในระยะยาว
.
นายอมรศักดิ์ กิจธนานันท์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ กล่าวว่า การสร้างผู้นำจิตอาสาด้านความปลอดภัย เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาทักษะการใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย เพื่อลดความสูญเสีย รู้จักการเป็นผู้ให้ รู้จักคุณค่าของชีวิต และตอบแทนคุณแผ่นดิน โดยเฉพาะการร่วมกันเป็นผู้นำจิตอาสาด้านความปลอดภัย เพื่อพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยริเริ่มจากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางถนน และขยายผลไปยังหน่วยงานของรัฐ และภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อฝึกฝนและพัฒนาตนเองให้มีความรู้และเป็นผู้เสียสละ ด้วยการน้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่องการเป็นจิตอาสามาปรับใช้ในการสร้างจิตสำนึกเพื่อส่วนรวม การช่วยเหลือ การสนับสนุน หรือลงมือทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์แก่สังคม จนเป็นพลังที่สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้อย่างยั่งยืน คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ
จึงเห็นสมควรให้มีการจัดโครงการสัมมนา เรื่อง “รักในหลวง ห่วงใยลูกหลาน ร่วมกันสร้างผู้นำจิตอาสา ด้านความปลอดภัยอย่างยั่งยืน เพื่อพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์” ขึ้น โดยร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการศึกษาและเสนอแนะแนวทาง ด้านการสื่อสารในการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้ หลักการทรงงาน ความรู้เกี่ยวกับการเป็นจิตอาสา รวมถึงพระราชกรณียกิจของสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งน้อมนำแนวทางพระราชดำริในเรื่องจิตอาสามาใช้กับการดำเนินชีวิตอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างผู้นำจิตอาสาด้านความปลอดภัย โดยเริ่มจากความปลอดภัยทางถนนด้วยการพัฒนาทักษะและให้ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยบนท้องถนนที่ประชาชนสามารถป้องกันได้หากมีทักษะในเรื่องการใช้ยานพาหนะและการใช้ถนนที่ถูกต้อง และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ในการสร้างผู้นำจิตอาสาด้านความปลอดภัยเพื่อพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
.
สำหรับการจัดสัมมนาครั้งนี้ มีการบรรยายใน 3 หัวข้อ ประกอบด้วย 1. หัวข้อ “ระบบวิเคราะห์มนุษย์ปัจจัยเพื่อการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน (Human Factors Analysis and Classification Systems for Road Accident Prevention : HFACS)” 2. หัวข้อ “การติดอาวุธทางปัญญา ทักษะมนุษย์ปัจจัยเพื่อความปลอดภัยอย่างยั่งยืน (Human Factors for Sustainable Road Safety)” และ 3. หัวข้อ “การวางระบบการจัดการความปลอดภัยทางถนนเข้าสู่หน่วยงาน องค์กร สถาบันการศึกษา เพื่อบรรลุเป้าหมายตามแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2565-2570” โดย นาวาอากาศเอก สุวรรณ ภู่เต็ง วิทยากรด้านการจัดการความปลอดภัย และการสอบสวนด้านความปลอดภัย (Safety Investigation)
