วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุมจัดเลี้ยง 102 – 104 ชั้น 1 อาคารรัฐสภา คณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา ร่วมกับ คณะกรรมาธิการการพาณิชย์และการอุตสาหกรรม วุฒิสภา คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา และคณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา จัดสัมมนา เรื่อง “ภูมิรัฐศาสตร์เศรษฐกิจโลกกับบทบาทของจีน :
โอกาส และความท้าทายสำหรับไทย” โดยมี พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง เป็นประธานกล่าวเปิดการสัมมนา นายกัมพล สุภาแพ่ง ประธานคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา กล่าวรายงาน พร้อมด้วย คณะกรรมาธิการการพาณิชย์ฯ คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ คณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศฯ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสื่อมวลชน เข้าร่วม
.
โอกาสนี้ ได้รับเกียรติจากนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน อภิปรายเรื่อง “ภูมิรัฐศาสตร์เศรษฐกิจโลกกับบทบาทของจีน : โอกาสและความท้าทายสำหรับไทย” ในการสัมมนาครั้งนี้ด้วย
รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง กล่าวช่วงหนึ่งในพิธีเปิดการสัมมนาว่า ในช่วงเวลานี้จะเห็นได้ชัดว่าภูมิรัฐศาสตร์ทางเศรษฐกิจของโลกกำลังปรับสมดุลอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้ประเทศต่าง ๆ ต้องทบทวนนโยบายการพึ่งพาการค้าเสรีแบบเดิม และหันมาให้ความสำคัญกับ “ระบบเศรษฐกิจในประเทศ” และ “ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ” มากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นคือปัญหาเงินเฟ้อทั่วโลก โดยมีปัจจัยจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงความผันผวนของตลาดทุน ได้สร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาอย่างประเทศไทย โดยเฉพาะผลกระทบในด้านต้นทุนการผลิต และภาระหนี้สาธารณะที่สูงขึ้น
ส่งผลต่อศักยภาพในการแข่งขันระยะยาว ในอีกด้านหนึ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนเองยังคงมีบทบาทอย่างมากในฐานะคู่ค้าสำคัญรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของภูมิภาค จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่เราจะต้องทำความเข้าใจมุมมองและยุทธศาสตร์ของจีนอย่างลึกซึ้ง เพื่อสามารถกำหนดท่าทีและแนวนโยบายที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของชาติ ปัจจุบัน เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของภูมิรัฐศาสตร์เศรษฐกิจโลกเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนย้ายของอำนาจทางเศรษฐกิจ การแข่งขันด้านเทคโนโลยี หรือผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้า
และเราก็พบว่าบทบาทของจีนในเวทีโลกได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและส่งผลกระทบต่อหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย วุฒิสภาในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ที่มีหน้าที่สำคัญในการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินของฝ่ายบริหารหรือรัฐบาล ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลนโยบายด้านเศรษฐกิจของประเทศให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน จึงจำเป็นต้องได้รับฟังรับทราบข้อมูลจากการวิเคราะห์เชิงลึกและข้อเสนอแนะต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการสัมมนาในครั้งนี้ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของวุฒิสภาในการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินอย่างมีประสิทธิภาพ และตอบสนองความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกได้อย่างทันท่วงทีและเหมาะสม
.
การจัดสัมมนาในครั้งนี้มีการอภิปรายเรื่อง “ภูมิรัฐศาสตร์เศรษฐกิจโลกกับบทบาทของจีน : โอกาสและความท้าทายสำหรับไทย” โดย นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สมาชิกวุฒิสภา หน่วยงานของรัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของภูมิรัฐศาสตร์เศรษฐกิจโลก และบทบาทของสาธารณรัฐประชาชนจีนในเวทีเศรษฐกิจระหว่างประเทศ รวมทั้งเพื่อวิเคราะห์โอกาสและความท้าทายที่ประเทศไทยต้องเผชิญจากการขยายบทบาทของจีนในด้านการค้า การลงทุน การพัฒนาเทคโนโลยี และความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมสร้างวิสัยทัศน์ในการกำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง การอุตสาหกรรม และการต่างประเทศของประเทศไทย ให้มีความสอดคล้องกับบริบทระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนสนับสนุนบทบาทของวุฒิสภาในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติในการติดตาม ประเมิน และเสนอแนะเชิงนโยบายต่อรัฐบาลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจโลกและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ