กมธ. การเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา ลงพื้นที่ศึกษาดูงานด้านการเกษตร ณ จังหวัดชุมพร
วันศุกร์ที่ 5 กันยายน 2568 เวลา 10.00 – 12.00 นาฬิกา คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา นำโดย นายธวัช สุระบาล ประธานคณะกรรมาธิการ พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการ ได้เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ ศาลากลางจังหวัดชุมพร โดยได้รับการต้อนรับจากนายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับสรุปภาพรวมเศรษฐกิจการเกษตรในจังหวัด และแนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตรในอนาคต รวมทั้ง แนวทางการการส่งเสริมและทางการยกระดับมาตรฐาน
พืชเศรษฐกิจ เพื่อการจำหน่ายและการส่งออก สรุปได้ดังนี้
จังหวัดชุมพร มีลักษณะพื้นที่เป็นที่ราบคลื่นและที่ราบลุ่มและเป็นเขตเกษตรกรรมที่สำคัญ เขตการปกครองประกอบด้วย 8 อำเภอ มีจำนวนครัวเรือนทั้งหมด 199,749 ครัวเรือน เป็นครัวเรือนเกษตรกร 87,832 ครัวเรือน มีจำนวนประชากรทั้งหมด 413,250 คน จังหวัดชุมพรมีพื้นที่การเพาะปลูกทั้งหมด 3,756,250 ไร่ พื้นที่เกษตรกรรม 2,228,059 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 59% พื้นที่ ส.ป.ก. 504,008 ไร่ และพื้นที่อื่น ๆ คิดเป็นร้อยละ 40% มีสิ้นค้าเกษตรที่สำคัญ ดังนี้
– พืชที่สำคัญ ได้แก่ 1) ปาล์มน้ำมัน 1,37,226 ไร่ 2) ยางพารา 653,875 ไร่ 3) ทุเรียน 334,576 ไร่ 4) มะพร้าวขนแกะ 97,632 ไร่ 5) กาแฟ 44,88 ไร่ 6) มังคุด 46,178 ไร่ 7) กล้วยหอมทอง 7,433 ไร่
– สัตว์ที่สำคัญ ได้แก่ โคเนื้อ 44,922 ตัว และโคนม 1,052 ตัว
– สัตว์น้ำที่สำคัญ ได้แก่ ปูม้า 556,114 กิโลกรัม และกุ้งทะเล 6,470 กิโลกรัม
ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรไตรมาส 2 ปี 2568 หดตัวร้อยละ 10.3 โดยแบ่งเป็นสาขา ดังนี้
1) สาขาบริการทางการเกษตรลดลง 1.1% เนื่องจากเกษตรกรมีการปรับเปลี่ยนปลูกพืชเศรษฐกิจน้อยลง 2) สาขาปศุสัตว์เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 เนื่องจากความต้องการบริโภคไก่และสุกร รวมถึงราคาเพิ่มขึ้นทำให้เกษตรกรเลี้ยงไก่เนื้อและสุกรเพิ่มขึ้น 3) สาขาพืชลดลง ร้อยละ 10.5 เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวนฝนตกในระยะทุเรียนออกดอกทำให้ติดผลช้ากว่าปีที่ผ่านมาประกอบกับปาล์มน้ำมันได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนปริมาณน้ำไม่เพียงพอทะลายปาล์มน้ำมันไม่สมบูรณ์ 4) สาขาประมงลดลงร้อยละ 5.4 เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวนอุณภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้นปริมาณสัตว์น้ำน้อยลง เรือประมงพาณิชย์จับรสัตว์น้ำได้น้อยลง 5) สาขาป่าไม้ลดลงร้อยละ 0.8 เนื่องจากราคายางพาราที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ดีประกอบกับราคาไม้ยางทรงตัวเกษตรกรจึงชะลอการโค่นส่งผลให้สาขาป่าไม้หดตัว
ทั้งนี้ จังหวัดชุมพรได้มีการส่งเสริมและควบคุมมาตรฐานพืชเศษฐกิจไทยในการส่งออก โดยเฉพาะทุเรียน ดูควบคุมตั้งแต่สวนทุเรียน โรงคัดบรรจุ ตลอดจนการจำหน่ายไปยังต่างประเทศ ซึ่งมีการตรวจความสะอาด ตรวจคุณภาพทุเรียน และตรวจติดตามตามมาตรฐานอย่างเข้มงวด
ในการนี้ คณะกรรมาธิการได้มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการบริหารจัดการภาครัฐเพื่อยกระดับภาคการเกษตรบนฐานนวัตกรรม ภาครัฐควรมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลและบริหารจัดการระบบการผลิตสินค้าเกษตรตั้งแต่ต้นน้ำ เพื่อลดปัญหาการสวมสิทธิ์ รวมถึงการกำกับดูแลระบบตรวจสอบและติดตาม นอกจากนี้ การสร้างความร่วมมือระหว่างเกษตรกรกับผู้ประกอบการถือเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเกษตรยุคใหม่ ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยให้เกิดการบูรณาการห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain Integration) ตั้งแต่การผลิต การรวบรวมผลผลิต การแปรรูป ไปจนถึงการตลาดและการส่งออก รวมถึงการพัฒนาเชิงพื้นที่ ควรมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร (Agro-tourism) ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกร รวมถึงเพิ่มมูลค่าผลผลิตผ่านการเรียนรู้และประสบการณ์ตรงของผู้บริโภค อีกทั้งภาครัฐควรสนับสนุนการลงทุนด้านการแปรรูปสินค้าเกษตร เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาและเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ตลอดจนพัฒนาระบบห้องเย็นที่มีมาตรฐาน เพื่อรองรับการส่งออกและรักษาคุณภาพผลผลิตในระยะยาว โดยเน้นการขับเคลื่อนภาคเกษตรด้วยแนวคิด “นวัตกรรม นำการผลิต”
อนึ่ง คณะกรรมาธิการจะได้นำข้อมูลและความคิดเห็นที่ได้รับไปประกอบการพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ ต่อไป
