“รองนายกรัฐมนตรี” เผย รัฐตั้งใจดูแลประชาชนอย่างแท้จริง ดัน 1 โครงการข้าราชการ 1 ครัวเรือนยากจน ศอ.บต. เป็นโครงการต้นแบบ พร้อมหนุนอาหารกลางวันในโรงเรียนสอนศาสนาชายแดนใต้

“รองนายกรัฐมนตรี” เผย รัฐตั้งใจดูแลประชาชนอย่างแท้จริง ดัน 1 โครงการข้าราชการ 1 ครัวเรือนยากจน ศอ.บต. เป็นโครงการต้นแบบ พร้อมหนุนอาหารกลางวันในโรงเรียนสอนศาสนาชายแดนใต้


วันนี้ (ศอ.บต.) พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) สัญจร จังหวัดสงขลา โดยได้เยี่ยมชมนิทรรศการโครงการของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ณ โรงแรมคริสตัล อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้พูดคุยกับชาวบ้านที่ได้รับการช่วยเหลือในโครงการ 1 ข้าราชการ 1 ครัวเรือนยากจน ซึ่งพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. นำทีมข้าราชการ ศอ.บต. ลงพื้นที่ช่วยเหลือครัวเรือนยากจน 379 ครัวเรือนตามฐานข้อมูล TPMAP เพื่อหาช่องทางช่วยเหลือความยากจนใน 5 มิติ ประกอบด้วย จนสุขภาพ จนรายได้ จนการศึกษา จนที่อยู่อาศัย และจนการเข้าถึงสวัสดิการของรัฐ ซึ่งได้รับการช่วยเหลือภายหลังข้าราชการลงพื้นที่ดูแลอย่างใกล้ชิด
โดยครอบครัวของนายระพิน ละซอ ประชาชน หมู่ 4 ต.สะกอม จ.สงขลา เป็นหนึ่งในครัวเรือนที่ ศอ.บต. ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือและดูแลตามฐานข้อมูลดังกล่าวให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลูกสามารถไปโรงเรียนได้ตามปกติ และได้ที่อยู่อาศัยหลังใหม่ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกรมการปกครอง หน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ และผู้นำชุมชน ร่วมกันสร้างบ้านหลังใหม่เพื่อเป็นอยู่อาศัย


นางฮามีด๊ะ มะเส็นสะ ภรรยาของนายระพิณ เล่าว่า บ้านที่อยู่อาศัยหลังเดิมเป็นเพียงกระท่อม ยกสูง ไม่มีประตู หน้าต่าง เป็นเพียงบ้านที่พักพิงและอาศัย ในช่วงเวลากลางคืนหรือช่วงไปกรีดยางพารา ก็จะพะวงห่วงลูกอยู่ที่บ้าน จึงต้องอุ้มไปด้วยทุกครั้ง เพราะบ้านไม่มีประตู หน้าต่าง ในส่วนของรายได้ต่อวันของครอบครัว เฉลี่ยวันละ 300-400 บาท เป็นค่าใช้จ่ายรายวัน วันใดที่กรีดยางได้ก็มีรายได้ เพราะรับจ้างกรีด แต่ส่วนใหญ่ฝนตกหนัก ครอบครัวก็ต้องช่วยกันประหยัดให้มากที่สุด ขอบคุณรัฐบาล ศอ.บต. และหน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยที่ช่วยเหลือ ขอให้มีโครงการาดีๆแบบนี้ เพื่อต่อยอด ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ต่อไป


โดยพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะช่วยดูแลต่อไป เพราะเป็นความตั้งใจของรัฐบาลที่ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
นอกจากนี้รองนายกรัฐมนตรี ยังพูดคุยกับครูโรงเรียนสอนศาสนา (ตาดีกา) ในพื้นที่เกี่ยวกับปัญหาอาหารกลางวันของเด็กในพื้นที่ โดยนายอับดุล แลฮา ครูสอนศาสนา โรงเรียนเราดอตุลอัตฟาน ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา เล่าว่า โรงเรียนตาดีกาเป็นโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สอนวิชาศาสนา วันละ 5 วิชา เข้าเรียนตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. ในช่วงเที่ยงเด็กต้องกลับไปกินข้าวที่บ้าน เนื่องจากโรงเรียนไม่มีอาหารกลางวันให้เด็ก ส่งผลให้มีเด็กบางส่วนไม่มาเรียนช่วงบ่าย จึงอยากขอให้รัฐช่วยสนับสนุนอาหารกลางวัน เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้เรียนหนังสือให้ครบทุกวิชาในแต่ละวัน เพราะการเรียนวิชาศาสนาที่ถูกต้อง และเข้าใจ จะช่วยส่งเสริมให้เด็กเติบโตเป็นคนดี ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข และสิ่งไม่ดีทั้งปวงในสังคม

 

Related posts