ศรีสะเกษ แม่เปิดใจเหตุลักนมให้ลูกเพราะไม่มีเงินซื้อต้องดูแลลูกเป็นเด็กพิเศษ ยกมือไหว้ทั้งน้ำตาขอโทษเจ้าของร้าน

ศรีสะเกษ แม่เปิดใจเหตุลักนมให้ลูกเพราะไม่มีเงินซื้อต้องดูแลลูกเป็นเด็กพิเศษ ยกมือไหว้ทั้งน้ำตาขอโทษเจ้าของร้าน ขณะที่ รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษเผยสั่งให้ปล่อยตัวโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์เนื่องจากเห็นว่ามีหลักฐานที่อยู่ชัดเจนอีกทั้งทรัพย์สินที่ลักไปมีมูลค่าไม่มากนัก

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ น.ส.นันท์ (นามสมมุติ) อายุ 51 ปี ชาวบ้านชุมชนแห่งหนึ่ง เขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.เมืองศรีสะเกษเข้าทำการจับกุมได้ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งที่บริเวณตำบลน้ำคำ อ.เมืองศรีสะเกษ เนื่องจากว่า น.ส.นันท์ ได้ลักนม จำนวน 3 กล่อง ๆ 13 บาท รวมเป็นเงิน 39 บาท แล้วถูกผู้จัดการร้านสะดวกซื้อจับได้ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ ตร.นำโดย ร.ต.อ.ไพบูลย์ คุณสาร รอง สวป.สภ.เมืองศรีสะเกษ มาทำการจับกุม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่เนื่องจากว่า ร.ต.อ.ไพบูลย์ ทราบว่า ทรัพย์สินที่ น.ส.นันท์ ลักไปนั้น มีมูลค่าไม่มากนักอีกทั้งทราบเหตุผลจาก น.ส.นันท์ ว่า ต้องการลักเอานมไปให้ลูกดื่มกิน ร.ต.อ.ไพบูลย์ จึงได้นำเอาธนบัตรใบละ 50 บาทออกมาจะจ่ายเงินให้กับทางร้านแทน แต่ว่าผู้จัดการร้านไม่ยินยอมยืนยันให้จับกุม น.ส.นันท์ ไปดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากทราบว่า เคยก่อเหตุลักทรัพย์มาแล้ว 3 ครั้ง ร.ต.อ.ไพบูลย์ จึงได้นำตัวไปส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น. ของคืนวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

น.ส.นันท์ (นามสมมุติ) อายุ 51 ปี เปิดเผยสาเหตุที่ต้องลักนม 3 กล่องว่า เนื่องจากว่าตนมีเงินอยู่ 100 บาทลูกชอบกินแป๊บซี่ ชอบกินเบอร์เกอร์ จึงซื้อแป๊บซี่ 2 ขวดเบอร์เกอร์ 1 อันและเฉาก๊วย 1 ถ้วย รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 101 บาท ต่อมาลูกได้ทักทาง LINE มาว่า แม่หิวข้าว ตนจึงเห็นว่าลูกไม่ค่อยกินข้าวอีกทั้งเงินก็น้อยถ้าจะเอาเงินในกระเป๋าไปซื้อนมเพิ่มอีก 3 กล่องเงินก็จะไม่มีกินในตอนเช้าของวันใหม่ จึงต้องการเก็บเอาเงินใส่กระเป๋าไว้ เงินจำนวนนี้จำเป็นต้องใช้เนื่องจากว่า ต้องการเอาไว้ซื้อข้าวให้ลูกกินในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นจึงตัดสินใจขโมยนม 3 กล่อง ซึ่งเป็นการกระทำที่แย่ๆแบบนั้น นมจำนวน 3 กล่องๆละ 13 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 39 บาท ตอนถูกจับได้ตนตกใจมากและเสียใจมากที่ได้กระทำลงไป สงสารแม่ สงสารพี่และลูกสาวที่จะต้องไม่มีคนเลี้ยงดู

น.ส.นันท์ (นามสมมุติ) อายุ 51 ปี เล่าต่อไปว่า ลูกสาวของตนอายุ 15 ปีแล้ว แต่ว่าเป็นเด็กพิเศษ เรียนหนังสือไม่ทันเพื่อน มีอาการผิดปกติมาตั้งแต่คลอดออกมาแล้ว ตนหย่าร้างกับสามี จึงต้องเลี้ยงลูกคนเดียว ตามปกติแล้วลูกของตนอายุ 15 ปีจะต้องเรียนชั้น ม.4 แต่ว่าต้องเรียน ม.2 อีกทั้งเวลาไปเรียนหนังสือจะต้องถูกเพื่อนบูลลี่เป็นประจำทุกวัน และบางวันก็ถูกเพื่อนแกล้งขังไว้ในห้องน้ำ บางวันก็ถูกเพื่อนลักรองเท้า ทำให้ลูกสาวของตนไม่อยากไปเรียนหนังสือและได้หยุดเรียน ตนสงสารลูกสาวมากจึงต้องดูแลลูกสาวอย่างเต็มที่ตามที่ตนจะทำได้ อีกทั้งเพื่อนของลูกได้มาชวนให้ลูกของตนไปเรียนหนังสือที่ จ.อุบลราชธานี แต่ตนเห็นว่า ลูกสาวของตนคงไม่สามารถไปเรียนได้ เนื่องจากว่าสติปัญญาไม่ทันเพื่อน ลูกสาวของตนเรียนช้ามาก จึงพยายามดูแลลูกสาวเนื่องจากไม่ต้องการให้ลูกไปเรียนหนังสือที่ จ.อุบลราชธานี

น.ส.นันท์ พนมมือไหว้แล้วกล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ตนกราบขอโทษเจ้าของร้านสะดวกซื้อที่ตนได้เข้าไปลักนมกล่อง 3 กล่องเพื่อต้องการเอาไปให้ลูกดื่มกิน ตนเสียใจมาก ตนยอมรับสารภาพผิด และจะไม่กระทำผิดแบบนี้อีกต่อไป ซึ่งตนได้รับปากกับ ร.ต.อ.ไพบูลย์ คุณสาร รอง สวป.สภ.เมืองศรีสะเกษ ที่จะจ่ายเงินค่านมให้ทางร้านสะดวกซื้อแทนตนแล้วว่า ตนจะไม่กระทำผิดอีก

ทางด้าน พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า คดีนี้ตนทราบเหตุและตรวจสอบแล้วเห็นว่า แม้คดีนี้จะเป็นคดีอาญาแผ่นดินต้องหาว่า ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนซึ่งมีโทษจำคุกสูงถึง 5 ปี และบุคคลอื่นไม่ควรเอาเป็นแบบอย่าง แต่เนื่องจากผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มีบุตรที่จะต้องดูแล ไม่น่าจะหลบหนี และทรัพย์ที่ลักเอาไปมีมูลค่าเล็กน้อยเพียง 39 บาท หากประกันตัวไปไม่น่าจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและไม่น่าจะเสียรูปคดี เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงได้สั่งการให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาไปจากการควบคุมของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ และสั่งให้ผู้ต้องหามารายงานตัวตามนัดต่อไปแล้ว/////////

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

Related posts