สตูล ผบช.ภ.9 ลงสตูลติดตามคดีโรฮิงญา 51 คน ศูนย์พักพิงชั่วคราวตชด.436 ลงดูกระบวนการคัดแยกเหยื่อค้ามนุษย์
วันที่ 7 กันยายน 2565 พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 บิน ฮ . ด่วนลงจังหวัดสตูล ลงที่บริเวณที่ลานตำรวจตระเวนชายแดนที่ 436 ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ทำการมอบสิ่งของ อุปกรณ์เครื่องใช้ และของกิน พร้อมกับเดินทางไปเยี่ยมกลุ่มบุคคลต่างด้าวชาวโรฮิงญา ทั้งหมด 51 คน และดูการปฎิบัติการคัดแยกเหยื่อค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา ซึ่งอยู่ในกระบวนการคัดแยก สอบสวนโดยชุด สหวิชาชีพ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 กล่าวว่า วันนี้มาเยี่ยมและให้กำลังใจ และยังอยู่ในขั้นตอนสอบสวนคัดแยกเหยื่อค้ามนุษย์ ยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาใดๆทั้งสิ้น ส่วนการทำงานต่อจากนี้ต้องหารือหลายๆฝ่าย คุยกับทางหน่วยงานที่มีศักย์ภาพที่เฝ้าระวัง ต่อจากนี้ต้องรอผลสำนวนสอบสวนต่อ
สำหรับชาวโรฮิงญาที่ลอยคออยู่ในทะเลอำเภอละงู10คนและชาวโรฮิงญาบนเกาะกล้วยอำเภอทุ่งหว้า41รวมเป็น51คนพบว่าได้เดินทางมาเรือลำเดียวกันโดยต่างคนมากันคนละจุดซึ่งชุดแรกสิบคนนายหน้าชาวโรฮิงญา8คนตามคำกล่าวอ้างพบว่าไปรับมาจากค่ายUNHCRบังคลาเทศและที่เหลือไปรับจากท่าเรือซิตตุ๋ยรัฐยะไข่ของเมียร์ม่าโดยจ่ายค่าหน้าหน้าที่ต่างกันไปบางรายจ่าย7ล้านจ๊าด/8ล้านจ๊าด/และ10ล้านจ๊าดให้กับนายหน้าชาวโรฮิงญาด้วยกันในการเดินทางไปอินโดนีเซียและมาเลเซีย ก่อนมาถูกลอยแพเพราะเรือน้ำมันหมดทำให้ทิ้งชาวโรฮิงญาที่โดยสารมากับเรือจุดตามที่ตรวจพบและล่าสุดพบว่าเรือที่ใช้ลำเลียงชาวโรฮิงญาถูกตำรวจน้ำควบคุมได้ที่อำเภอกันตังจาวโรฮิงญาถูกตำรวจน้ำควบคุมได้ที่อำเภอกันตังจังหวัดตรังพร้อมนายหน้าชาวโรฮิงญา
และขณะนี้ชาวโรฮิงญาทั้ง2จุดที่พบ51คนได้ถูกนำตัวมาไว้ยังจุดพักพิงชั่วคราวในกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่436ตำบลคลองขุดอำเภอเมืองจังหวัดสตูล(ซึ่งเป็นจุดเดิมที่ชาวโรฮิงญา59คนถูกทิ้งไว้ที่เกาะดงอุทยานแห่งชาติตะรุเตาเมื่อวันที่4มิ.ย.2565)เพื่อทำการสอบสวนด้วยทีมสหวิชาชีพพร้อมล่ามและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวนสภ.ละงูเพื่อเกาะรอยเส้นทางว่าเข้าค่ายขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่ และสิ่งที่ชาวจังหวัดสตูลได้ตั้งข้อสังเกตถึงการเดินทางเข้ามาในน่านน้ำชั้นในของจังหวัดสตูลได้อย่างไรทั้งที่มีเรดาร์ตรวจจับสัญญาณเรือแปลกปลอมตามแนวตะเข็บชายแดนในการเฝ้าระวังราชอาณาจักรอยู่แล้วและยิ่งมองถึงการทำการของฝ่ายความมั่นคงตามแนวชายแดนถึงความละหลวมถึงความบกพร่องต่อหน้าที่หรือรุ้เห็นเป็นใจให้มีการผ่านเข้ามาในจังหวัดสตูลเพื่อเป็นจุดพักพิงก่อนเดินทางต่อไปยังประเทศที่สาม
นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดสตูล