พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง นำผู้บริหาร รร.เอกชนสอนศาสนาอิสลาม ศึกษาการจัดการโรงเรียนใน กทม. มีสอนภาษาอาหรับ-ญี่ปุ่น-มลายู

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง นำผู้บริหาร รร.เอกชนสอนศาสนาอิสลาม ศึกษาการจัดการโรงเรียนใน กทม. มีสอนภาษาอาหรับ-ญี่ปุ่น-มลายู

วันนี้ (7 ต.ค.65) พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมนายอับดุลอายี สาแม็ง ส.ส.ยะลา พรรคประชาชาติ และคณะ นำคณะผู้บริหารโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 5 จังหวัดชายแดนใต้ กว่า 30 คน เข้าเยี่ยมและศึกษาดูงานการจัดการศึกษาของโรงเรียนในสังกัด กทม. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร

โดยมี พลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษานายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม) และนางชุลีพร วงษ์พิพัฒน์ รองผู้อำนวยการสำนักการศึกษา และคณะให้การต้อนรับ โดยได้แลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องการบริหารการศึกษาของท้องถิ่น และการพัฒนาการศึกษาในด้านต่างๆ มุ่งเน้นการเสริมสร้างประสิทธิภาพจัดการศึกษา ที่ตอบสนองความต้องการของผู้เรียนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง

นางชุลีพร วงษ์พิพัฒน์ กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร ดูแลโรงเรียนในสังกัด กทม.จำนวน 437 แห่ง ในจำนวนนี้มีโรงเรียนที่สอนภาษาอาหรับ 71 แห่ง สอนภาษาญี่ปุ่น 12 แห่ง และสอนภาษามลายู 7 แห่ง เป็นการจัดการศึกษาตรงกับความต้องการของประชาชนใน กทม. ซึ่งมีพื้นที่ผู้นับถือศาสนาอิสลามจำนวนมาก เช่นในเขตหนองจอก มีนบุรี บางกะปิ และสะพานสูง โดยทำงานร่วมกันกับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยในการสรรหาบุคลากรสอนภาษา

พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ในฐานะอดีตคณะผู้ร่วมเจรจาสันติภาพชายแดนใต้ครั้งแรก เมื่อปี 2556 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในยุคที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวว่า “ในเรื่องของภาคใต้สิ่งที่ยากที่สุดเราได้ทำมาแล้วแต่ก็ไปไม่ถึงไหนเคยมีผู้ใหญ่ถามผมว่าความสำเร็จจะอยู่ตรงไหน ผมเคยไปทำที่อาเจะ อินโดนีเซีย งดงาม สง่างาม วันนี้อาเจะ 56 ปีแล้วมีแต่ความสุขความเจริญ โมเดลต่างๆเหล่านี้ทั้งโลกทำคล้ายๆกัน ผมเคยบอกกับผู้ใหญ่ในระดับสูงสุดของประเทศมาแล้วว่า

สิ่งที่ยากที่สุดก็คือการได้รับความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน ท่านทวีเป็นผู้ริเริ่มทำเรื่องนี้ออกมาให้ชัดเจน จงจำภาพนี้ไว้ ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 คือวันประวัติศาสตร์ที่ผมได้ตอบคำถามกับอดีตนายกรัฐมนตรีว่าเราได้รับความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ของมาเลเซียออกมาแถลงข่าว รวมทั้งบุคคลต่างๆ เช่นผู้นำทางความคิดทั้งหลายเราก็ได้พบ เราทำงานนี้ได้ไกลพอสมควร ในเรื่องความเข้าใจและความต้องการของอีกฝ่ายหนึ่งหรือคนในพื้นที่ ยืนยันว่าเราไปได้ไกลพอสมควร เราได้มานั่งโต๊ะคุยกัน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ถูกล้างทิ้ง ผมเองก็แทบไม่มีอะไรที่เป็นเยื่อใย ผมมีความรู้สึกว่าสิ่งที่ยากที่สุดก็คือการออกมานั่งคุยบนโต๊ะ แล้วไม่ใช่ใส่สูทคุยกันนะแต่ปิดห้องคุยกัน

ผมถามจริงๆว่าต้องการอะไร ก็ได้ข้อมูลมาพอสมควร หากแต่สิ่งที่เราไปได้ข้อมูลมา ชั้นช่วงของการทำงานมันยาวแล้วก็ความไม่เข้าใจ สิ่งที่อันตรายที่สุดที่ผมพูดเสมอคือ เขาไม่รู้ตัวว่าเขาไม่รู้ นี่คือสิ่งที่ท่านทวีและหลายๆท่านบริหารจัดการโรงเรียน ดูแลนักเรียนเป็นแสนคนในภาคใต้ วันนี้เรื่องการศึกษา การให้ความรู้ ความคิด กาลเวลาจะช่วยทำให้เปลี่ยนแปลงได้ และในเมื่อท่านเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องการศึกษา ซึ่งท่านทวีได้พาท่านมาที่นี่ ผมอยากจะบอกว่านี่คืออะไรใหม่ๆ ผมเกษียณมาจากทหาร ได้มาเห็นรากฐานการทำงานของ กทม. แล้วมาเห็นความคิดชุดใหม่ของผู้ว่าฯ กทม.และทีม มาทำอะไรใหม่ๆให้ดู มันคือความเปลี่ยนแปลงที่ท่านได้เห็นแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา แล้วมันจะไม่จบแค่นี้จะมีการเชื่อมต่อกันต่อไป”

#พรรคประชาชาติ #การศึกษา #กทม #โรงเรียนศาสนา

Related posts