‘พ.ต.อ.ทวี’ เลขาธิการพรรคประชาชาติ ชี้รัฐบาลมักง่าย ออก พ.ร.ก.ค้ำกู้เงินกองทุนน้ำมัน ผลักภาระหนี้ให้ประชาชน
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (9 พ.ย.65) ในวาระพิจารณา พ.ร.ก.ผ่อนผันให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2565 ซึ่งพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคประชาชาติ ได้อภิปรายด้วย
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลออก พ.ร.ก.ผ่อนผันให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่ง ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวและไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แต่โดยหลักการบริหารนโยบายสาธารณะ หรือการบริหารราชการแผ่นดินนั้น สิ่งสำคัญที่สุดต้องดูที่ผลประโยชน์ทับซ้อน ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานก็ทราบว่าตัวเองมาจากภาคพลังงาน จากเครือ ปตท. โดยเฉพาะมาจากผู้ค้าน้ำมัน และพลังงานเชื้อเพลิง สิ่งที่ท่านตัดสินใจไปกู้เงินหรือค้ำประกันกู้เงิน เป็นการผลักภาระให้ประชาชน และช่วยเหลือโรงกลั่นให้ได้กำไร ประชาชนใช้น้ำมันราคาแพงเพราะนโยบายรัฐ ซึ่งผมเห็นด้วยกับการช่วยเหลือในกลุ่มผู้ใช้น้ำมันดีเซล แต่ควรมาจากโรงกลั่นน้ำมันและผู้ขายที่มีกำไรก้าวกระโดดด้วย ไม่ควรที่จะผลักภาระไปให้ประชาชน ก็คือการให้เป็นหนี้สาธารณะ คือเป็นหนี้ของประชาชนทุกคน ไม่ใช่หนี้ของรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน หรือรองนายกรัฐมนตรี ที่สำคัญท่านไม่เลือกที่จะให้ผู้ค้าน้ำมัน ถ้าไปดูงบการเงินจะมีกำไรมากมาย ซึ่งกำไรนั้นท่านไม่ได้ไปแตะต้องกับกลุ่มผู้ค้า จึงตั้งคำถามว่าท่านมาจาก ปตท.หรือเปล่า มาจากพลังงานหรือเปล่า ท่านจึงเลือกที่จะผลักภาระให้ประชาชนเป็นผู้กู้
วันนี้หนี้สาธารณะที่เป็นข้อมูลเปิดเผยถึงเดือนกันยายน 2565 จำนวนกว่า 10 ล้านล้านบาท ในการมาชี้แจงกรรมาธิการงบประมาณของ ผอ.สำนักหนี้สิน ตั้งงบใช้หนี้เงินกู้หนี้สาธารณะไว้เพียง 260,000 ล้านบาท เงินใช้หนี้ในจำนวนนี้ท่านทราบหรือไม่ว่าเป็นเงินต้นเพียงแค่ 60,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นดอกเบี้ย มะเร็งร้ายของหนี้สาธารณะคือท่านผลักภาระไปให้ดอกเบี้ยกับประชาชน ท่านน่าจะมีวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้
ในการชี้แจงงบประมาณปกติเราจะเห็นว่า ในส่วนของน้ำมันในส่วนที่เราจะลดได้ก็คือภาษี ซึ่งมีภาษี 6 ตัว คือ 1.หักเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 2.เข้ากองทุนอนุรักษ์พลังงาน 3.ภาษีมูลค่าเพิ่ม 4.ภาษีเทศบาล และ 5.ภาษีสรรพสามิต แม้ท่านจะบอกว่าลดภาษีสรรพสามิตไป 5 บาท แต่ยังมีภาษีอื่นที่ยังลดได้อีก
กรณีบริษัทที่ร่ำรวยกับการค้าน้ำมัน ก็มีการพูดถึง และมีกระแสเรียกร้องให้เก็บภาษีลาบลอย กำลังส่วนเกินที่เกินกว่าเกณฑ์ปกติควรจะหยุด แล้วก็เก็บภาษีมาให้กับประชาชน ผมคิดว่า พ.ร.ก.ฉบับนี้ เป็นกฎหมายที่ส่งภาระให้คนในอนาคต และถามว่าเงินจำนวน 100,000 กว่าล้านที่จะไปกู้ ท่านสามารถชี้แจงได้หรือไม่ว่าไปกู้กับใคร ดอกเบี้ยเท่าใด และการกู้ดังกล่าวนับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือเอาหนี้เดิม 100,000 กว่าล้านมากู้ด้วย
จึงขอฝากไปยังรัฐบาลว่า การออก พ.ร.ก. ในขณะที่มีสภาผู้แทนราษฎร ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรจะรู้ทุกข์ร้อนของประชาชนดี ถ้าท่านนำเรื่องเข้าสภาผู้แทนราษฎรก็คงไม่มีความมักง่ายไปผลักภาระให้ประชาชน เพราะประชาชนไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียง แต่ถูกผลักภาระจะต้องเป็นหนี้อีกไม่รู้กี่สิบปี จึงไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.ก.ฉบับนี้
#พรรคประชาชาติ #PartiUmmah #น้ำมันแพง #ปตท #พลังงาน