ศอ.บต. นำทัพแลกเปลี่ยนมุมมองการพัฒนาเศรษฐกิจ ณ ประเทศมาเลเซีย ขณะที่ด้านหอการค้าจีน-เคดาห์ สนใจการซื้อขายยางพารา หวังเพิ่มโอกาสให้แก่คนในพื้นที่ จชต.

ศอ.บต. นำทัพแลกเปลี่ยนมุมมองการพัฒนาเศรษฐกิจ ณ ประเทศมาเลเซีย ขณะที่ด้านหอการค้าจีน-เคดาห์ สนใจการซื้อขายยางพารา หวังเพิ่มโอกาสให้แก่คนในพื้นที่ จชต.

วันที่ 12 กันยายน 2565 ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) นำโดยนายอำนวย ศรีระแก้ว ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. (พช.) พร้อมด้วยคุณดาวิน หยาง ประธานสมาคมจีนในอาเซียน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางเข้าพบประธานหอการค้าจีน-เคดาห์ (Mr.Ang Saik Cheong SDK.BKM)
President of Kedah Chinese Chamber of Commerce and Industry ในโอกาสเยือนประเทศมาเลเซียเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองการพัฒนา ภายใต้กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจังหวัดชายแดนภาคใต้และประเทศมาเลเซีย

ในการนี้ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ศอ.บต. เป็นองค์กรในนามรัฐบาลไทยมีบทบาทหน้าที่ในการบริหารจัดการและพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมทรัพยากรมนุษย์ หนุนเสริมเติมเต็มประสานความร่วมมือ ร่วมกับส่วนราชการทุกหน่วยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งที่ผ่านมาศอ.บต.ได้มีการขับเคลื่อนโครงการที่สำคัญหลายมิติ ทั้งในมิติด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ที่ถือว่าได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ศอ.บต.ยังได้ขับเคลื่อนโครงการปศุสัตว์ ภายใต้ระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล การส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ปลูกมะพร้าว เพื่อส่งต่อให้กับโรงงานในพื้นที่ อีกทั้งยังได้สนับสนุนให้เกษตรกรปลูกพืชพลังงาน เพื่อป้อนสู่ความต้องการของตลาดโรงไฟฟ้า ตลอดจนให้ประชาชนใช้พื้นที่ได้ใช้พื้นที่ว่างเปล่ามาสร้างอาชีพ สร้างรายได้ที่ยั่งยืน

ด้านผู้แทนหอการค้าอุตสาหกรรมจีน – เคดาห์ กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยที่เห็นถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศซึ่งบทบาทการขับเคลื่อนงานของหอการค้าอุตสาหกรรมจีน – เคดาห์ ปัจจุบันมีมากกว่า 30 องค์กรในรัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นเครือข่ายธุรกิจที่มีการขับเคลื่อนที่หลากหลาย พร้อมกันนี้ยังได้หารือและเสนอแนะแนวทางโครงการเชื่อมโยงระบบรถไฟฟ้ารางคู่ระหว่างเส้นทางหาดใหญ่- ปาดังเบซาร์กับเส้นทาง
ปาดังเบซาร์-อิโปห เพื่อต้องการที่จะเปิดโอกาสในการกระตุ้นการท่องเที่ยวระหว่างประเทศได้มากยิ่งขึ้นด้วย อีกทั้งยังมีความสนใจในเรื่องของการซื้อขายยางพารา เนื่องจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนใหญ่ปลูกยางพาราเป็นหลัก ซึ่งหากได้เข้ามาลงทุนเชื่อว่าจะสามารถสร้างโอกาสให้กับคนในพื้นที่ตลอดจนเป็นอีก 1 ช่องทางที่ขยายตลาดให้กว้างมากขึ้นด้วย

ทั้งนี้สำหรับการเดินทางมาเยือนประเทศมาเลเซียครั้งนี้มีกำหนดเดินทางตั้งแต่วันที่ 12 – 17 กันยายน 2565 โดยคณะฯ จะได้เข้าพบรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมและประธานองค์กรแนวร่วมแห่งชาติมาเลเซีย ณ ที่ทำการกระทรวงคมนาคม
ประเทศมาเลเซีย จากนั้นเดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า
ณ ตลาดค้าปลีกค้าส่ง Pasar Borong
พร้อมร่วมหารือแลกเปลี่ยนมุมมองกับหอการค้ามาเลเซีย – จีน
ณ สำนักงานหอการค้ามาเลเซีย-จีน

เข้าพบมุขมนตรีเมืองปีนัง รัฐปีนัง ณ ที่ทำการรัฐปีนัง
และพบปะนักลงทุน MALAYSIA INVESTMENT ASSOCIATION
Mr.Jeffrey Lim และคณะฯ ณ รัฐปีนัง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลประกอบธุรกิจชายแดน
และความร่วมมือต่างๆ รวมถึงเดินทางไปเยี่ยมชมท่าเรือปีนัง
ปีนัง ตลอดจนพบปะผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในรัฐปีนัง
ทั้งนี้เพื่อติดตามการขับเคลื่อนการพัฒนาที่สำคัญ รวมทั้งกำหนดทิศทางความร่วมมือในอนาคต โดยเฉพาะ
การฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศต่อไป

อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับมาเลเซียได้มีการดำเนินความร่วมมือ
ภายใต้กลไกต่าง ๆ ที่มีอยู่ อาทิ คณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีระหว่างไทยกับมาเลเซีย คณะกรรมการว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดนคณะกรรมการด้านความมั่นคง ได้แก่ คณะกรรมการชายแดนทั่วไป
คณะกรรมการระดับสูง และ
คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคซึ่งทั้ง 3 ระดับเป็นกรอบ
ความร่วมมือของฝ่ายทหารเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านความมั่นคง และความร่วมมือชายแดน


คณะกรรมการด้านความมั่นคงกรอบอื่น ๆ เฉพาะเรื่อง อาทิ คณะกรรมการร่วมด้านการป้องกัน
และปราบปรามยาเสพติด และความร่วมมือในกรอบแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายอินโดนีเซีย-
ม า เ ล เ ซ ี ย-ไ ท ย แ ล ะ อ า เ ซ ี ย น แ ล ะ
แก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งประกอบด้วยการเสริมสร้าง
ความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนร่วมกันพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศ รวมถึงเสริมสร้างมาตรการสร้างความไว้วางใจบนพื้นฐานของกรอบ 3Es ได้แก่ การศึกษา (Education) การจ้างงาน (Employment) และ
การประกอบกิจการ (Entrepreneurship)

 

Related posts